คงปฏิเสธได้ยากที่ในปี 2022 ที่ผ่านมานั้น Hollywood ต้องประสบกับปัญหาความไม่สมดุลของรายได้หนัง อันที่จริงมันเริ่มมาตั้งแต่ โควิด-19 ระบาด จากนั้นมาก็มีหนังเพียงไม่กี่เรื่องที่สามารถการันตีว่า Hollywood ได้กลับมาอยู่ในจุดที่ผ่านพ้นวิกฤติไปแล้ว เพราะนอกจากหนังซูเปอร์ฮีโร่แล้ว ดูเหมือนหนังแนวอื่นๆอาจจะมีที่ทำรายได้แบบหืดจับ หรือไม่ก็ทำรายได้พอเอาตัวรอดไปได้ หากเทียบกับปริมาณหนังที่ถูกผลิตออกมา ซึ่งถ้ามองโดยภาพรวมแล้วมันค่อนข้างจะไม่สู้ดีนัก ข่าวหนังใหม่
นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าคนดูยังคงกลัวกับการเข้าโรงหนัง และอาจรวมไปจนถึงการที่หลายๆคนเริ่มชินกับการรอดูหนังในตรีมมิ่งไปแล้ว แต่การมาของหนังภาคต่ออย่าง Top Gun: Maverick ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.48 พันล้านเหรียญทั่วโลก ซึ่งหนังเรื่องนี้ถือเป็นงานแนว Old School ไม่ได้มีตัวเอกที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ หรือมีพล็อตที่ล้ำหน้าอะไร แต่หนังของ Tom Cruise กลับทำให้ผู้คนพร้อมใจกันตบเท้าเข้าไปดู นั่นเพราะพลังดาราของตัว Tom Cruise เอง อาจด้วยความดื้อด้านเล็กน้อยของเขาที่ใช้พลังดาราปฏิเสธสตูดิโอที่จะเอาผลงานของเขาลง VOD หรือ สตรีมมิ่ง เพราะเขาคิดว่าหนังเรื่องนี้ควรรับชมในโรงเท่านั้น แต่พลังดารานั้นอาจยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับงานสร้างที่จริงใจต่อคนดู ชนิดที่ว่าคุณต้องยอมเข้าไปดูกันในโรงหากคิดจะรับชมเรื่องนี้ได้อย่างมีอรรถรส นั่นเป็นข้อบังคับที่คอหนังหลีกเลี่ยงได้ยาก และมันส่งผลให้ Top Gun: Maverick ทำรายได้มโหฬารขนาดนี้
นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าคนดูยังคงกลัวกับการเข้าโรงหนัง และอาจรวมไปจนถึงการที่หลายๆคนเริ่มชินกับการรอดูหนังในตรีมมิ่งไปแล้ว แต่การมาของหนังภาคต่ออย่าง Top Gun: Maverick ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.48 พันล้านเหรียญทั่วโลก ซึ่งหนังเรื่องนี้ถือเป็นงานแนว Old School ไม่ได้มีตัวเอกที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ หรือมีพล็อตที่ล้ำหน้าอะไร แต่หนังของ Tom Cruise กลับทำให้ผู้คนพร้อมใจกันตบเท้าเข้าไปดู นั่นเพราะพลังดาราของตัว Tom Cruise เอง อาจด้วยความดื้อด้านเล็กน้อยของเขาที่ใช้พลังดาราปฏิเสธสตูดิโอที่จะเอาผลงานของเขาลง VOD หรือ สตรีมมิ่ง เพราะเขาคิดว่าหนังเรื่องนี้ควรรับชมในโรงเท่านั้น แต่พลังดารานั้นอาจยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับงานสร้างที่จริงใจต่อคนดู ชนิดที่ว่าคุณต้องยอมเข้าไปดูกันในโรงหากคิดจะรับชมเรื่องนี้ได้อย่างมีอรรถรส นั่นเป็นข้อบังคับที่คอหนังหลีกเลี่ยงได้ยาก และมันส่งผลให้ Top Gun: Maverick ทำรายได้มโหฬารขนาดนี้
จากการที่หนัง Top Gun: Maverick สามารถจูงมือคนดูให้ลุกจากหน้าทีวีเพื่อเข้าโรงได้นี้ Steven Spielberg ผู้ที่ก็เป็นอีกคนที่พยายามอย่างหนักเพื่อสร้างผลงานและความเชื่อมั่นให้คนดูกลับมาเข้าโรงหนัง แต่อาจยังไม่สามารถทำได้ เมื่อพ่อมดแห่ง Hollywood ได้เจอกับ Tom Cruise ในงานเลี้ยงของผู้เข้าชิง Oscars อย่าง Academy Luncheon ในฐานะที่เคยร่วมงานกันมาในยุคหนึ่งกับหนังอย่าง War of the Worlds (2005) และ Minority Report (2002) พ่อมด Hollywood จึงขอแสดงความนับถือต่อตัว Tom Cruise จากใจจริง นี่คือภาพที่งดงามและทรงพลังที่หน้าประวัติศาสตร์ควรจารึกไว้ Steven Spielberg กล่าวกับ Tom Cruise ว่า “คุณช่วยชีวิต Hollywood เอาไว้ และพูดกันจริงๆเลยว่า Top Gun: Maverick อาจช่วยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งหมดไว้เลยด้วย"
นั่นไม่ใช่คำพูดเกินจริง ถึงแม้ว่า Top Gun: Maverick จะทำรายได้แพ้ให้กับหนังฮีโร่ Marvel อย่าง Spider-Man: No Way Home ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.916 พันล้านเหรียญ แต่นั่นมันคือหนัง Marvel ที่มี Spider-man ถึงสามรุ่นรวมในหนังเรื่องเดียว ซึ่ง Tom Cruise ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นก็สามารถพาหนังของเขาก้าวสู่ทำเนียบหนังที่ทำรายได้สูงสุดอันดับที่ 11 ในประวัติศาสตร์ทั่วโลก (ตามอัตราเงินเฟ้อ) โดยรายได้กว่า 718 ล้านเหรียญ คือรายได้ในอเมริกา นั่นจึงทำให้ Steven Spielberg ต้องกล่าวขอบคุณพลังสร้างสรรค์ของ Tom Cruise ด้วยตนเอง
No comments:
Post a Comment