แน่นอนว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทุกสิ่งจะต้องหลบหลีกให้กับการกลับมาสดุดีราชันย์แห่งวาคานด้า ที่กลับมาสานต่อความสำเร็จอีกครั้ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ นี่คือโปรแกรมหนังฟอร์มยักษ์ใหญ่อีกเรื่องหนึ่งประจำปีนี้ ที่ไม่ว่าหนังเรื่องไหนก็คงจะไม่กล้าต่อกรสักเท่าไหร่ และก็นำมาซึ่งการกอบโกยรายได้และสร้างสถิติใหม่ ๆ บนบ็อกซ์ออฟฟิศได้อีกครั้ง "Black Panther: Wakanda Forever" เปิดตัวเป็นแชมป์หนังในอเมริกาและแทบจะทั่วทั้งโลกใบนี้ โดยถือว่าเป็นการออกสตาร์ทที่กระหึ่มไม่น้อย เพราะสามารถทำรายได้ 3 วันแรกไปได้แบบงาม ๆ ที่ 180 ล้านเหรียญ โดยประมาณ จากการครองโรงฉาย 4,396 แห่งทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่สูงถึง 4 หมื่นเหรียญ นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจและเป็นไปตามที่สตูดิโอหนังและนักวิเคราะห์มองเอาไว้
ถึงแม้ว่า Black Panther 2 จะไม่สามารถเปิดตัวได้แรงกว่าที่ภาคแรกเคยทำเอาไว้ 202 ล้านเหรียญ ในปี 2018 แต่กระนั้นหนังก็ยังขึ้นแท่นเป็นหนังมาร์เวลที่เปิดตัวได้ดีเป็นอันดับที่ 3 นับตั้งแต่เปิดจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา เป็นรองแค่เพียง Spider-Man: No Way Home (260 ล้านเหรียญ) กับ Doctor Strange 2 (187 ล้านเหรียญ) โดยที่หนังยังครองตำแหน่งหนังเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลเรื่องใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่อเมริกา แซงหน้าสถิติเดิมของ The Hunger Games: Catching Fire (158 ล้านเหรียญ) ในปี 2013 ไปอย่างราบคาบ
หนังภาคต่อเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไปราว ๆ 250 ล้านเหรียญ โดยยังไม่รวมค่าประชาสัมพันธ์และโปรโมตต่าง ๆ แต่ออกสตาร์ทแค่ไม่กี่วันแรก หนังก็โกยรายได้จากตลาดต่างประเทศไปได้กว่า 250 ล้านเหรียญ เมื่อรวมรายได้ทั่วโลกนั้นถือว่าทำได้น่าพอใจที่ 330 ล้านเหรียญ โดยที่หนังมีเนื้อหาสอดแทรกการไว้อาลัยถึง "แชดวิก โบสแมน" นักแสดงผู้ล่วงลับที่เคยเป็นนักแสดงนำในหนัง ที่จากไปอย่างกะทันหันก่อนจะเริ่มถ่ายทำหนังภาคนี้
Black Panther: Wakanda Forever ถือว่าได้กระแสตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์และผู้ชมในอเมริกา โดยหนังคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 84% บนเว็บไซต์ Rotten Tomaotes และยังได้เกรด A จากผู้ชมจากการสำรวจหน้าโรงหนังของ CinemaScore นั่นจึงเป็นสัญญาณที่หนังได้รับกระแสเชียร์แบบปากต่อปาก ถึงแม้ว่านักวิเคราะห์มองว่าภาคนี้อาจจะไม่ทำเงินทั่วโลกได้มากกว่า 1.33 พันล้านเหรียญ ที่ภาคแรกเคยทำเอาไว้ เพราะหนังจะไม่มีโอกาสได้ฉายใน จีน และ รัสเซีย ที่ถือว่าเป็นตลาดหนังใหญ่ แต่ก็คาดว่ามีสิทธิ์ที่จะทะลุพันล้านเหรียญได้ไม่ยากนัก
ขณะที่อีกเรื่องที่เปิดตัวได้กระหึ่มบ็อกซ์ออฟฟิศสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน แต่เป็นในการเปิดตัวฉายแบบวงแคบ ๆ ก็คือ "The Fabelmans" หนังดราม่าหวังรางวัลปีนี้ที่มีเค้าโครงมาจากชีวิตวัยเด็กของ "สตีเวน สปีกเบิร์ก" ที่เขาก็รับหน้าที่ถ่ายทอดหนังเรื่องนี้เอง หนังเปิดตัวเพียงแค่ 4 โรงฉายเท่านั้น แต่โกยเงินได้สูงถึง 161,000 เหรียญ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยสูงกว่า 4 หมื่นเหรียญ เทียบเท่ากับ Black Panther 2 เลยทีเดียว
โดยหนังใหม่ของสปีลเบิร์กเรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยม และเชื่อว่าตัวหนังจะเป็นแถวหน้าในฐานะตัวเต็งรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหนังจะเพิ่มโรงฉายและออกฉายเป็นวงกว้างในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า วันที่ 23 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ คาดการณ์ว่าหนังเรื่องนี้น่าจะโกยรายได้ปังไปแบบยาว ๆ ไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า ช่วงที่รางวัลออสการ์ประกาศผลแล้วเสร็จเลยทีเดียว ต้องจับตาดูให้ดี ๆ ข่าวหนังใหม่
No comments:
Post a Comment