Tuesday, November 29, 2022

คิมแรวอน-อีจงซอก-ชาอึนอู ร่วมภารกิจหยุดหายนะ จุดชนวนเสียงระทึก ใน DECIBEL

ธันวาคมนี้ ชาวไทยได้เวลานับถอยหลัง จุดชนวนความระทึก ระเบิดโปรเจกต์ภาพยนตร์แอ็กชัน-ทริลเลอร์ ฟอร์มยักษ์ เดือดระอุแห่งปี ดังกระหึ่มทั้งเอเชียกับสถิติเปิดตัวอันดับหนึ่ง Box Office ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย Decibel  ลั่นระเบิดเมือง นี่ถือเป็นผลงานความระทึกขั้นสุด ลุ้นวินาทีต่อวินาที ในปฏิบัติการหยุดวินาศกรรมเสียงก่อนที่ทั้งเมืองจะย่อยยับในพริบตา กับการเจาะลึกชนวนระทึก ลั่นความน่าดูทะลุเดซิเบล ก่อนไปชมภาพยนตร์

ลั่นวินาศกรรมเสียง Decibel หรือ ลั่นระเบิดเมือง คือ โปรเจกต์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล และได้รับการจับตามองจากทั่วโลกอีกเรื่องหนึ่งของเกาหลีในปีนี้ เพราะด้วยเรื่องราวสุดระทึก ภารกิจสุดมันส์ลุ้นแบบนันสต็อปจนเกือบหยุดหายใจ ลั่นบ็อกซ์ออฟฟิศ ถือเป็นผลงานแห่งปีด้วยการเปิดตัวขึ้นอันดับ 1 บนบ็อกซ์อฟฟิศเกาหลีตั้งแต่เข้าฉายวันแรก พร้อมกับเสียงตอบรับที่ดีและดังแบบปากต่อปาก จนคว้าคะแนนฝั่งผู้ชม (The Audience Score) สูงเฉียดร้อยคะแนนเต็ม

ลั่นซูเปอร์สตาร์กระหึ่มเอเชีย การรวมตัวกันครั้งแรกของ 3 ซูเปอร์สตาร์ของเกาหลี นำโดย คิมแรวอน นักแสดง A-List ของวงการ ในบทอดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือที่ต้องกู้ระเบิดให้ทันแข่งกับความดังเสียง ร่วมด้วยนักแสดงหนุ่มสุดฮอต ฝีมือไม่ธรรมดา อีจงซอก กับบทบาทอดีตกัปตันเรือระดับมันสมองที่มาพร้อมกับแผนที่คาดเดาไม่ได้ และการเดบิวท์บนจอภาพยนตร์ครั้งแรกของ ชาอึนอู ไอดอลสุดฮอตจาก Astro ในบทนายทหารเรือสุดเข้ม ที่แน่วแน่ในทุกสิ่ง โดยทั้งสามคนได้ทำงานร่วมกับกัปตันเรือตัวจริง เพื่อการแสดงและภาพที่สมจริงที่สุด

ลั่นงานสร้างเดือดคาบสมุทร นอกจากที่ตัวนักแสดงอย่าง คิมแรวอน จะขอเล่นบทแอ็กชันด้วยตัวเองแล้ว Decibel ยังถ่ายทำในโลเกชั่นขนาดมหึมา ทั้งสนามกีฬาขนาดใหญ่ สวนน้ำระดับประเทศ ที่ถือเป็นฉากระเบิดไฮไลท์ รวมถึงการทำการบ้านอย่างหนักของทีมงาน เพื่อสร้างฉากเรือดำน้ำขนาดกว่า 4,000 ตัน ที่สมจริงจนกองทัพเรือต้องตะลึง เตรียมลุ้นขีดสุดไปกับสุดยอดโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ที่ขนความระทึก อัดแน่นความบันเทิงมาเต็มพิกัด ถึงเวลาพร้อมระเบิดความมันส์ไปพร้อมกัน Decibel ลั่นระเบิดเมือง 1 ธันวาคมนี้

Friday, November 25, 2022

Ben Affleck และ Matt Damon ร่วมกันเปิดตัวบริษัทสร้างภาพยนตร์ Artists Equity

Variety ได้รายงานว่า เบน แอฟเฟล็ก (Bean Affleck) และ แมตต์ เดมอน (Matt Damon) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เข้าวงการ ได้ร่วมกันเปิดตัว Artists Equity ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก RedBird Capital Partners

RedBird Capital Partners นั้น กลุ่มบริษัทลงทุนจากสหรัฐฯ โดยมีหุ้นในกลุ่มทุน Fenway Sports Group หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อ FSS ซึ่งเป็นเจ้าสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (เพิ่งประกาศขายทีมไปเมื่อไม่นานมานี้เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีนัก) และทีมเบสบอลชื่อดังในลีก MLB อย่าง บอสตัน เรด ซอกซ์

ทาง RedBird Capital Partners ได้ให้คำมั่นว่า จะขยายผลกำไรจากการ่วมงานนี้ให้สูงขึ้น รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการสร้างสรรค์งานคุณภาพสูง เกอร์รี คาร์ดิเนล (Gerry Cardinale) นักลงทุนด้านสื่อของ RedBird ได้กล่าวว่า ได้ต้องการลงทุนอย่างน้อย 100 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) ในบริษัทร่วมนี้ โดยแอฟเฟล็กมาดำรงตำแหน่งซีอีโอ ในขณะที่เดมอนจะทำหน้าที่เป็นซีซีโอ (Chief Content Officer) ที่ดูแลภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดที่บริษัทสร้าง


นอกจากนี้ ไมเคิล โจ (Michael Joe) อดีตผู้บริหารของ Universal Pictures และ STX Films ก็ได้เซ็นสัญญามาเป็นซีโอโอ (Chief Operating Officer : กรรมการอำนวยการฝ่ายปฏิบัติงาน) ขอบริษัทในลอสแอนเจลิสอีกด้วย โปรเจกต์แรกของ Artists Equity เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่ยังไม่มีการตั้งชื่อเรื่อง ซึ่งจะเขียนบทและกำกับโดยแอฟเฟล็ก ว่าด้วยเรื่องราวของจุดพลิกผันที่ Nike ได้ ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan) นักกีฬา NBA ชื่อดังจากทีม ชิคาโก บูลส์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ และทำให้บริษัทโด่งดังไปทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพยนต์ดังกล่าวจะร่วมสร้างโดย Amazon Studios, Skydance Sports และ Mandalay Pictures ทั้งนี้ Artists Equity มีเป้าหมายจะเปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ 3 ตัว ในปี 2023 และอย่างน้อย 5 ตัว ทุกปีหลังจากนั้น

Wednesday, November 23, 2022

ก่อนจะถูกเปลี่ยน บทเดิมของ "Black Panther 2" มีเรื่องราวของทายาทที’ชัลล่ามากกว่านี้

หนึ่งในเรื่องราวที่สวยงามและซาบซึ้งซึ่งเกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่อง Black Panther: Wakanda Forever เกิดขึ้นในช่วงฉากพิเศษระหว่างเครดิต ภาพยนตร์ได้เปิดเผยความลับที่ที’ชัลล่า และนาเคียเก็บซ่อนเอาไว้ ว่าทั้งคู่ได้มีลูกชายเติบโตขึ้นมา และเลือกที่จะเลี้ยงดูให้ห่างจากความกดดันของการต้องเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ปกครองวาคานด้า หนูน้อย Toussaint หรือ เจ้าชายที’ชัลล่า จากการเปิดเผยล่าสุดนั้น แรกเริ่มเดิมทีหนูน้อยคนนี้จะมีบทมากกว่านี้

ข้อมูลใหม่นี้มาจากการให้สัมภาษณ์ของ Joe Robert Cole มือเขียนบทร่วมของภาพยนตร์ภาคที่ 2 ของ Black Panther ได้เล่าถึงเรื่องราวดั้งเดิมของบทภาพยนตร์ก่อนจะถูกเปลี่ยนไป เขาเล่าให้ฟังผ่าน Rolling Stone ว่า “ใช่ครับ ในบทก่อนหน้านี้ เราจะมีการโฟกัสไปที่ตัวเด็กมากกว่านี้ครับ และลูกชายของเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในนั้น แต่ทุกคนก็คงเห็นแล้วว่ามันเปลี่ยนแปลงไป แต่เราอยากจะให้เขามีตัวตนอยู่ในหนังไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มันถูกลดลงไปเยอะเลยครับ มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้นะ ว่าเราจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้ผู้ชมได้รู้กันเมื่อไรดี แล้วส่วนที่ดีที่สุดจะเป็นแบบไหน? ไม่ใช่แค่เรื่องทางอารมณ์เท่านั้นนะครับ แต่ไม่ใช่แค่การบอกออกมา แต่มันต้องเข้ากับเรื่องราวและมันจะส่งผลยังไงกับตัวละครอื่นในเรื่องด้วยเมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้ เราเล่นประเด็นนี้กันอยู่นิดหน่อยครับ แต่เขาก็ไม่สามารถปรากฎตัวได้มากอีกต่อไปหลังจากที่แชดวิกจากไปครับ”

แน่นอนว่าหลังจากที่แชดวิก โบสแมนจากไปนั้น บทภาพยนตร์มีการถูกเปลี่ยนแปลง เมื่อได้ดูหนังแล้วเราก็พอจะเห็นรอยต่อที่ถูกตัดปะนั้น มันก็ชวนทำให้คิดว่ามันอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากขนาดนั้น แต่พอมาได้รับรู้ข้อมูลนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่เราคิด ทิศทางของตัวละคร แบล็คแพนเธอร์ คงจะถูกบิดไปอีกรูปแบบหนึ่งอย่างแน่นอน

Monday, November 21, 2022

เกร็ดสยอง Jeepers Creepers: Reborn ตำนานปีศาจเพชรฆาตโคตรโหด

นับถอยหลังเข้าสู่ฤดูกระชากหัว การกลับมาของเพชรฆาตจากขุมนรก อสุรกายร้ายที่ไม่มีวันตาย เดอะครีปเปอร์ ท่ามกลางความความหฤหรรษ์ของเหล่าวัยรุ่นในเทศกาลสยองขวัญ Horror Hour กลับปลุกปีศาจร้ายให้ตื่นขึ้นมา ออกอาละวาดกระชากหัวผู้คน เปลี่ยนความบันเทิงให้กลายเป็นฝันร้ายสุดสยอง และก่อนที่จะไปพบกับความน่ากลัวในภาพยนตร์เฟรนไชส์สยองขวัญ เรื่อง Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด วันนี้มาทำความรู้จักเจ้าอสุรกายตัวนี้ รู้ก่อน รอดก่อน กับเกร็ดสู่ความตำนานความสยองอันดับหนึ่ง

  1. ตามตำนานกล่าวว่า มันกลายร่างมาจาก “The Dragon god” เทพเจ้าโบราณที่ได้กลายร่างมาเป็นอสุรกายหลังจากที่เคยลิ้มลองแล้วติดใจในรสชาติของมนุษย์
  2. บ้างก็กล่าวว่า มันมาจากตำนานเก่าแก่ของอสูรโบราณอังกฤษที่ชื่อว่า “สปริง ฮีล แจ็ค”
  3. ชื่อ Jeepers Creepers มาจากเพลง Jeepers Creepers ของ Louis Armstrong ซึ่งเป็นเพลงโปรดที่มันมักจะชอบเปิดฟังเมื่อมันจัดการเหยื่อ
  4. Jeepers Creepers มีอายุมากกว่า 2,000 ปี
  5. มันจะตื่นขึ้นมาจากการจำศีลในทุกๆ 23 ปี เพื่อทำการออกล่าเป็นเวลา 23 วัน ก่อนจะกลับเข้าสู่การจำศีลเช่นเดิม
  6. ลักษณะทางกายภาพของมัน มีความสูง 6 ฟุต 1 นิ้ว หนัก 200 ปอนด์
  7. มีผิวหนังสีเขียวเข้ม และมีปีกที่ใช้บิน ลักษณะคล้ายกับปีกค้างคาว
  8. เครื่องแต่งกายประจำตัว Jeepers Creepers คือเสื้อโค้ท และหมวกปีกกว้าง
  9. Jeepers Creepers มียานพาหนะประจำตัวที่ใช้สำหรับการล่าเหยื่อคือรถบรรทุกเชฟวี่ ปี 1941
  10. โดยที่รถคู่ใจคันดังกล่าวของมันจะซ่อนกับดักและอาวุธอยู่ในตัวรถ เพื่อใช้โจมตีเหยื่อในรูปแบบต่างๆ ที่คาดไม่ถึง
  11. Jeepers Creepers มีอาวุธสังหารคู่ใจคือ ขวาน, ชูริเคน, หอก และมีดสั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำมาจากกระดูกและอวัยวะของมนุษย์
  12. Jeepers Creepers จะเลือกกินเฉพาะเหยื่อที่เป็นมนุษย์เพศชายเท่านั้น
  13. เป้าหมายในการไล่ล่ามนุษย์ของมันนั้น เป็นไปเพื่อการเอาอวัยวะของเหยื่อมาใช้เป็นอะไหล่สำหรับการเปลี่ยนแทนอวัยวะเก่าของมันที่เสื่อมสภาพไปแล้ว
  14. Jeepers Creepers ไม่มีวันตาย
  15. Jeepers Creepers โปรดปรานในการเล่นสนุกกับเหยื่อก่อนที่จะเริ่มทำการฆ่าจริงๆ
  16. ใน Jeepers Creepers: Reborn โฟกัสไปที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเทศกาล The Horror Hound Festival ในรัฐหลุยส์เซียน่า
  17. โดยที่ไฮไลท์ของเทศกาลนี้คือ Escape Room ที่มาในธีมของ Jeepers Creepers จากที่ตอนแรกมีเพื่อความสนุกสนาน แต่แล้ว Escape Room แห่งนี้ก็ได้กลายมาเป็นกับดักมรณะ
  18. ในแต่ละประเทศได้มีการตั้งชื่อเรียก Jeepers Creepers ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในเวนซูเอล่า ตัว Jeepers Creepers ถูกเรียกว่า The Messenger of Satan และในฝรั่งเศส มันถูกเรียกว่า The Devil’s Song
  19. ภาพยนตร์ในตระกูล Jeepers Creepers ถูกสร้างมาแล้วด้วยกันถึง 3 ภาค
  20. โดยที่ภาคแรกมีชื่อไทยว่า “โฉบกระชากหัว” และสำหรับภาคล่าสุดอย่าง Jeepers Creepers: Reborn นี้ ก็ได้มีการใช้ชื่อไทยว่า “โฉบกระชาก กลับมาเกิด”
  21. กระแสความฮิตของ Jeepers Creepers ได้นำไปสู่การเกิดฐานแฟนคลับขึ้นมาทั่วโลก มีการสร้างเว็บไซต์แฟนด้อม เพื่อรวบรวมข้อมูลและเกร็ดต่างๆ ของ Jeepers Creepers เอาไว้อีกด้วย
  22. นอกจากนี้ Jeepers Creepers ก็ยังได้แตกแขนงความฮิตออกไปสู่วัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแทตทู, คอสเพลย์, แฟนอาร์ต และคอมมิค
  23. แฟนตัวยงของ Jeepers Creepers ต้องห้ามพลาด สำหรับคนที่ยังไม่เคยดู ก็ต้องมาลอง สำหรับการลุกขึ้นมาเพื่อโฉบกระชากครั้งใหม่ รับรองว่าอำมหิตถูกใจแฟนๆ เป็นอย่างแน่นอน

เดอะครีปเปอร์ จำชื่อนี้ไว้ให้ขึ้นใจ เพราะนี่จะเป็นฝันร้ายครั้งเดียวที่คุณจะไม่มีวันลืม Jeepers Creepers: Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด 24 พฤศจิกายนนี้ หนังใหม่ชนโรง 2023


Friday, November 18, 2022

พลังกลายพันธุ์ติดปีกพา “Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์: วาคานด้าจงเจริญ” มุ่งหน้า 200 ล้านบาท

หลังจาก Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์: วาคานด้าจงเจริญ ภาคต่อภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ระดับตำนาน ก็หวนกลับมาทำสถิติเปิดตัวยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลมาร์เวลพร้อมปิดเฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวลอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่ ใกล้ถึงสถิติภาพยนตร์ของจักรวาลมาร์เวลที่ทำเงินสูงสุดตามติด Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness : จอมเวทย์มหากาฬในมัลติเวิร์สมหาภัย  ขณะนี้ที่กำลังมุ่งสู่ 200 ล้านบาท  ที่เหล่าสาวกและแฟน ๆ มาร์เวลต้องห้ามพลาด!

นักวิจารณ์และผู้ชมต่างลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าบทภาพยนตร์ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครและเรื่องราวได้อย่างเข้มข้นและลึกซึ้งที่สุดเท่าที่เคยปรากฏในจักรวาลมาร์เวล การถ่ายทอดเรื่องราวของสงคราม การสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำอีกของวาคานด้า และการจากไปของที’ ชัลล่า ซึ่งการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดของภาพยนตร์ที่ความยาวเกือบ 3 ชั่วโมงถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของยุคแห่งมาร์เวลก็ว่าได้ ด้วยฝีมือการกำกับการแสดงจากไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) กับคำนิยามจากนักวิจารณ์ว่า “ภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณและอารมณ์ความรู้สึก”

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้นักวิจารณ์เทคะแนนให้กับหนังเรื่องนี้คือ ฝีมือการแสดงของเหล่านักแสดงที่ผู้ชมคุ้นหน้าคุ้นตานำทีมโดยแองเจลา บาสเซตต์ (Angela Bassett) เลทิเทีย ไรท์ (Letitia Wright) ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong'o) วินสตัน ดุ๊ก  (Winston Duke) ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong'o) และโดยเฉพาะ เตนอช เวร์ตา (Tenoch Huerta) ที่ฝากฝีมือในบทเนมอร์ (Namor) เจ้าผู้ปกครองใต้สมุทรทาโลแคน ได้อย่างยิ่งใหญ่ ทรงพลัง และมีสเนห์สมกับที่สาวกมาร์เวลรอคอยการมาถึง และโดมินิก ธอร์น (Dominique Thorne) กับบทรีรี วิลเลียมส์ หรือ Iron Heart ที่ได้ใจผู้ชมไปเต็ม ๆ

มากไปกว่านั้น เทคนิคการถ่ายทำ การลำดับภาพ เสื้อผ้าและแฟชั่นในภาพยนตร์ ที่สร้างสรรค์และถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงามทั้งฝั่งวาคานด้าและทาโลแคน ประกอบกับดนตรีประกอบภาพยนตร์ ที่ถูกแต่งขึ้นเพื่อเชิดชูภาพยนตร์และแบล็ค แพนเธอร์โดยเฉพาะ เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกถึงการสูญเสียและพลังในการต่อสู้ อาทิ เพลง “Lift Me Up” ที่ได้ Rihanna ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก หวนจับไมค์อีกครั้งในรอบหลายปี เพื่อมอบให้กับช่วงชีวิตที่แสนพิเศษและตำนานของแชดวิก โบสแมน ร่วมสานต่อความ ‘มันส์’ ระดับตำนานของภาคต่อภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ที่ทุกคนห้ามพลาด กับ “Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์: วาคานด้าจงเจริญ

Wednesday, November 16, 2022

Elijah Wood และ Daniel Radcliffe ยอมรับเคยถูกทักว่าเป็นอีกคนทั้งคู่ เหตุหน้าคล้ายกัน

Elijah Wood และ Daniel Radcliffe ตัวเอกของ The Lord of the Rings กับ Harry Potter หน้าคล้ายกันจนโดนทักผิดทั้งคู่ เริ่มที่ Daniel Radcliffe ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Drew Barrymore Show ว่า เขาถูกทักว่าเป็น Elijah Wood มาหลายครั้งแล้ว

“ครั้งแรกคือตอนที่ผมเดินพรมแดงอยู่ที่งานหนึ่งในญี่ปุ่น มีผู้ชายคนหนึ่งยื่นรูป Elijah Wood มาให้ผม แต่เขาเป็นคนญี่ปุ่นที่พูดอังกฤษไม่ได้ แล้วผมเองก็พูดญี่ปุ่นไม่ได้ ผมจำไม่ได้ว่าผมเซ็นชื่อ Elijah Wood ไป หรือเขียนไปว่า ‘ผมไม่ใช่ Elijah Wood ผมคือ Daniel Radcliffe’ นี่แหละ”

ทางด้านของ Elijah Wood เองก็เคยถูกทักผิดว่าเป็น Daniel Radcliffe เช่นกัน โดย Elijah เปิดเผยกับ TMZ ว่า “ผมก็โดนทักผิดบ่อยเหมือนกันครับ” แม้ว่าทางด้านของ Daniel จะเคยจำเป็นต้องเซ็นลงบนรูปของ Elijah แต่ทางด้านของ Elijah ยังไม่เคยโดนถึงขนาดนั้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็เคยถูกทักผิดอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า ถ้าให้เล่นเป็น Daniel ในหนังชีวประวัติของเขา เขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“ผมอยากร่วมงานกับเขา เขาเป็นคนที่น่ารักนะ” Daniel Radcliffe มีผลงานล่าสุดเรื่อง The Lost City และ Weird: The Al Yankovic Story ส่วน Elijah Wood กำลังเตรียมถ่ายทำเรื่อง The Toxic Avenger, L.A. Rush และ Bookworm

Monday, November 14, 2022

"Black Panther 2" เปิดตัวกระหึ่มอเมริกา

แน่นอนว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทุกสิ่งจะต้องหลบหลีกให้กับการกลับมาสดุดีราชันย์แห่งวาคานด้า ที่กลับมาสานต่อความสำเร็จอีกครั้ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ นี่คือโปรแกรมหนังฟอร์มยักษ์ใหญ่อีกเรื่องหนึ่งประจำปีนี้ ที่ไม่ว่าหนังเรื่องไหนก็คงจะไม่กล้าต่อกรสักเท่าไหร่ และก็นำมาซึ่งการกอบโกยรายได้และสร้างสถิติใหม่ ๆ บนบ็อกซ์ออฟฟิศได้อีกครั้ง "Black Panther: Wakanda Forever" เปิดตัวเป็นแชมป์หนังในอเมริกาและแทบจะทั่วทั้งโลกใบนี้ โดยถือว่าเป็นการออกสตาร์ทที่กระหึ่มไม่น้อย เพราะสามารถทำรายได้ 3 วันแรกไปได้แบบงาม ๆ ที่ 180 ล้านเหรียญ โดยประมาณ จากการครองโรงฉาย 4,396 แห่งทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่สูงถึง 4 หมื่นเหรียญ นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจและเป็นไปตามที่สตูดิโอหนังและนักวิเคราะห์มองเอาไว้

ถึงแม้ว่า Black Panther 2 จะไม่สามารถเปิดตัวได้แรงกว่าที่ภาคแรกเคยทำเอาไว้ 202 ล้านเหรียญ ในปี 2018 แต่กระนั้นหนังก็ยังขึ้นแท่นเป็นหนังมาร์เวลที่เปิดตัวได้ดีเป็นอันดับที่ 3 นับตั้งแต่เปิดจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา เป็นรองแค่เพียง Spider-Man: No Way Home (260 ล้านเหรียญ) กับ Doctor Strange 2 (187 ล้านเหรียญ) โดยที่หนังยังครองตำแหน่งหนังเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลเรื่องใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่อเมริกา แซงหน้าสถิติเดิมของ The Hunger Games: Catching Fire (158 ล้านเหรียญ) ในปี 2013 ไปอย่างราบคาบ

หนังภาคต่อเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไปราว ๆ 250 ล้านเหรียญ โดยยังไม่รวมค่าประชาสัมพันธ์และโปรโมตต่าง ๆ แต่ออกสตาร์ทแค่ไม่กี่วันแรก หนังก็โกยรายได้จากตลาดต่างประเทศไปได้กว่า 250 ล้านเหรียญ เมื่อรวมรายได้ทั่วโลกนั้นถือว่าทำได้น่าพอใจที่ 330 ล้านเหรียญ โดยที่หนังมีเนื้อหาสอดแทรกการไว้อาลัยถึง "แชดวิก โบสแมน" นักแสดงผู้ล่วงลับที่เคยเป็นนักแสดงนำในหนัง ที่จากไปอย่างกะทันหันก่อนจะเริ่มถ่ายทำหนังภาคนี้

Black Panther: Wakanda Forever ถือว่าได้กระแสตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์และผู้ชมในอเมริกา โดยหนังคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 84% บนเว็บไซต์ Rotten Tomaotes และยังได้เกรด A จากผู้ชมจากการสำรวจหน้าโรงหนังของ CinemaScore นั่นจึงเป็นสัญญาณที่หนังได้รับกระแสเชียร์แบบปากต่อปาก ถึงแม้ว่านักวิเคราะห์มองว่าภาคนี้อาจจะไม่ทำเงินทั่วโลกได้มากกว่า 1.33 พันล้านเหรียญ ที่ภาคแรกเคยทำเอาไว้ เพราะหนังจะไม่มีโอกาสได้ฉายใน จีน และ รัสเซีย ที่ถือว่าเป็นตลาดหนังใหญ่ แต่ก็คาดว่ามีสิทธิ์ที่จะทะลุพันล้านเหรียญได้ไม่ยากนัก

ขณะที่อีกเรื่องที่เปิดตัวได้กระหึ่มบ็อกซ์ออฟฟิศสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน แต่เป็นในการเปิดตัวฉายแบบวงแคบ ๆ ก็คือ "The Fabelmans" หนังดราม่าหวังรางวัลปีนี้ที่มีเค้าโครงมาจากชีวิตวัยเด็กของ "สตีเวน สปีกเบิร์ก" ที่เขาก็รับหน้าที่ถ่ายทอดหนังเรื่องนี้เอง หนังเปิดตัวเพียงแค่ 4 โรงฉายเท่านั้น แต่โกยเงินได้สูงถึง 161,000 เหรียญ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยสูงกว่า 4 หมื่นเหรียญ เทียบเท่ากับ Black Panther 2 เลยทีเดียว

โดยหนังใหม่ของสปีลเบิร์กเรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยม และเชื่อว่าตัวหนังจะเป็นแถวหน้าในฐานะตัวเต็งรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหนังจะเพิ่มโรงฉายและออกฉายเป็นวงกว้างในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า วันที่ 23 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ คาดการณ์ว่าหนังเรื่องนี้น่าจะโกยรายได้ปังไปแบบยาว ๆ ไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า ช่วงที่รางวัลออสการ์ประกาศผลแล้วเสร็จเลยทีเดียว ต้องจับตาดูให้ดี ๆ ข่าวหนังใหม่

Friday, November 11, 2022

เฮลั่น !! บุพเพสันนิวาส ๒ เตรียมชื่นบานฉ่ำอุรา บน Netflix

มีข่าวดีมาให้แฟนๆชาวไทยได้ชื่นใจกันอีกแล้วค่า  ล่าสุดภาพยนตร์ภาคต่อของละครสุดฮิตที่เป็นกระแสไปทั่วแผ่นดินสยามและนานาประเทศอย่าง บุพเพสันนิวาส ๒ เตรียมมาลงจอให้เหล่าออเจ้าได้หายคิดถึง เตรียมรับชมความรื่นเริงบันเทิงพร้อมกัน วันที่ 1 ธันวาคมนี้ ที่ Netflix ได้เลยค่า หลังละคร “บุพเพสันนิวาส” ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนเกิดกระแสออเจ้าฟีเวอร์ไปทั่วประเทศ ทั้งยังได้รับความนิยมไปยังหลากหลายประเทศทั่วโลก 

เรื่องราวของคู่ขวัญอย่างพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดก็ได้ถูกนำกลับมาเล่าขานอีกครั้งใน บุพเพสันนิวาส ๒ ภาพยนตร์ภาคต่อที่บอกเล่าเรื่องราวอีกภพชาติหนึ่งของพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกด โดยหลังจากที่รักกันอย่างหวานชื่นจนตายจากเมื่อครั้งสมัยอยุธยา พี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดก็ได้กลับมาเกิดใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่กลับมีเพียงคนเดียวที่ยังเชื่อในเรื่องบุพเพสันนิวาส เมื่อ ภพ (โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างหนุ่มผู้มีรอยยิ้มหวานที่สุดในสยามประเทศ ฝันถึงหญิงสาวคนหนึ่งมานานหลายปี 

จนเชื่อหมดใจว่าเธอคือคู่บุพเพสันนิวาส และเมื่อเขาได้พบกับ เกสร (เบลล่า-ราณี แคมเปน) ผู้หญิงที่หน้าเหมือนสาวในฝันของเขาเปี๊ยบ ภพจึงตามจีบเธออย่างไม่ลังเล แต่ติดตรงที่เกสรเป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้า และไม่เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส แถมยังไม่ชอบขี้หน้าภพเลยซักนิด เพราะตอนนี้เธอกำลังสนใจ เมธัส (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่ชอบใช้คำพูดแปลกผิดยุค แต่ดันไปพ้องกับข้อความในสมุดบันทึกโบราณของคุณหญิงการะเกดที่เพิ่งถูกค้นพบ พานให้สงสัยว่าหรือเมธัสจะเดินทางย้อนเวลามาจากอนาคตเช่นเดียวกับคุณหญิงการะเกด


เรื่องรักยังไม่คลี่คลาย ก็ดันมีเรื่องวุ่นวายให้ภพ เกสร และเมธัส ต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของชาติบ้านเมือง ในยุคที่บุคคลสำคัญหลายท่านยังมีชีวิตโลดแล่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็น สุนทรภู่ กวีเอกของโลก หมอบรัดเลย์ บิดาแห่งการพิมพ์ บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ ผู้นำกล้องถ่ายรูปเข้ามาในประเทศเป็นคนแรก และนายห้างหันแตร เจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทย และยังเป็นผู้นำเรือกลไฟ “เอ็กสเปรส”  มาเสนอขายแก่สยาม จนนำมาซึ่งเรื่องลุกลามบานปลายที่อาจทำให้ประวัติศาสตร์เกิดการเปลี่ยนแปลง ภพ และเกสร จะรักษาประวัติศาสตร์ให้เป็นเช่นเดิมได้หรือไม่ ความรักของทั้งคู่จะลงเอยเช่นไร บุพเพสันนิวาสจะนำพาพวกเขาไปพบเจอสิ่งใดกันต้องไปหาคำตอบกันนะคะ

Wednesday, November 9, 2022

อนันดา-มาริโอ้ แท็กทีมผู้กำกับ เปิดทีเซอร์แรก "ขุนพันธุ์ 3" ในงาน Thailand Comic Con 2022

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จัดเต็มประเดิมความยิ่งใหญ่ของ ขุนพันธ์ 3 ภาพยนตร์แอ็กชันฮีโร่ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี 2566 ใน “Thailand Comic Con 2022” มหกรรมป็อปคัลเจอร์สุดยิ่งใหญ่ของไทย โดยนำทีมนักแสดง อนันดา เอเวอริงแฮม และ มาริโอ้ เมาเร่อ พร้อมผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ ร่วมพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และชม “ทีเซอร์แรก” พร้อมกันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

บรรยากาศงานเต็มไปด้วยบูธ และผู้เข้าร่วมงานมากมาย ถือได้ว่าสมกับเป็นกิจกรรมความบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ก่อนพบกิจกรรมสุดพิเศษ ขุนพันธ์ 3 สเปเชียลทอล์ก ณ Finn Stage เวทีกลางของงาน Thailand Comic Con 2022 นำทีมโดยสองหนุ่มนักแสดงยอดฝีมือ “อนันดา เอเวอริงแฮม” และ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ร่วมด้วยผู้กำกับแอ็กชันมือหนึ่งแห่งยุค “ก้องเกียรติ โขมศิริ” ขึ้นพูดคุยถึงการทำงานสุดหิน และเบื้องหลังการถ่ายทำสนุกสุดโหดสมกับการกลับมาอีกครั้งแบบความมันส์ยกกำลังสามของภาพยนตร์แอ็กชันไทยฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ และไฮไลต์สุดพิเศษ “ทีเซอร์แรก” ของภาพยนตร์ในงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทำเอาคอหนังไทย สาวกหนังแอ็กชันฮีโร่ และผู้ได้ชมต่างร้องว้าวไปตามๆ กัน ถือว่าเรียกน้ำย่อยความมันส์ระทึกของจริงที่ทำให้ทุกคนปักหมุดรอคอยภาพยนตร์ ขุนพันธ์ 3

หลังการพูดคุยบนเวทีอย่างสนุกสนาน “อนันดา-มาริโอ้” และ “โขม ก้องเกียรติ” ได้นำสื่อมวลชนและแฟนๆชมงาน และร่วมเก็บภาพที่ “บูธสหมงคลฟิล์ม” (B31) กับโมเมนต์สุดพิเศษเมื่อ “อนันดา” ปะทะ “อนันดา” เผยโฉมครั้งแรกของ “โมเดลขุนพันธ์” ที่ถูกถอดแบบมาจากคาแร็กเตอร์ “ขุนพันธ์ 3” โดย OISHI STUDIO รวมถึงร่วมแจกลายเซ็นบน “T-Shirt Collection ขุนพันธ์ 3” มอบให้กับแฟนๆ ผู้โชคดีที่มาร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้โดยเฉพาะ

ซึ่งผู้กำกับ ได้พูดถึงขุนพันธ์ 3 ร่วมงาน Thailand Comic Con 2022 ในครั้งนี้ว่า “วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราเปิดทีเซอร์ของภาพยนตร์ให้ทุกคนในงานนี้ได้ชมกัน ซึ่งได้ยินหลายๆคนพูดว่าอยากดูเราก็รู้สึกดีใจมาก รวมถึงวันนี้ดีใจที่ได้เห็นโมเดลขุนพันธ์ครั้งแรกพร้อมกันด้วย เป็น 10 ปี ที่เหนื่อยมากๆแต่มันคือการทุ่มเทมากๆเพื่อหนังไทย เพราะเราอยากจะเห็นหนังแอ็กชันฮีโร่ไทยเป็นแบบนี้จริงๆ ในความเหนื่อยมันคือ ที่สุดของความภูมิใจ มันคือความอิ่มเอมใจในทุกคัทที่เราทำ มันไม่มีซักคัทเลยที่ดูถูกคนดู คุณจะเห็นความตั้งใจจริงๆ ขอฝาก “ขุนพันธ์ 3” ด้วยครับ” โขม ก้องเกียรติ กล่าว รวมถึงนักแสดงนำทั้งสองได้กล่าวทิ้งท้ายถึงทีเซอร์ของภาพยนตร์ แรง ขลัง และเนี้ยบ มาก อนันดา ได้พูดสั้นๆก่อนส่งต่อให้ มาริโอ้ พูดต่อ “โอ้รู้สึกตื่นเต้นมาก รู้สึกขนลุกและรอติดตามต่อไปอยากให้แฟนๆรอชมกันทางออนไลน์สหมงคลฟิล์มเร็วๆนี้”

Monday, November 7, 2022

ตำนานที่หิวกระหาย Jeepers Creepers Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด ในรอบ 23 ปี

ถึงเวลากระชากหัว! กับอสุรกายสุดโหดเจ้าของตำนาน โฉบกระชากหัว ผู้ไม่มีวันตาย การกำเนิดใหม่ของปีศาจร้ายที่หิวกระหาย และทุก 23 ปี มันจะตื่นขึ้นมาเพื่อล่าในภาพยนตร์สยองขวัญไตรภาคชื่อดังที่กวาดรายได้ทั่วโลกมาแล้วกว่า 125 ล้านเหรียญ สู่ความระทึกขวัญครั้งใหม่ที่คุณจะผวาจนลืมไม่ลงกับ Jeepers Creepers Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด

ปีนี้ตำนานโฉบกระชากหัวจะกลับมาอีกครั้ง เตรียมรับมือกับความสยองปนคลั่งบทใหม่ กับเรื่องราวของ เชส (อิมราน อดัมส์) และ เลน (ซิดนีย์ คราเว่น) คู่รักที่เดินทางไปร่วมงานเทศกาลสยองขวัญที่จัดขึ้นในหลุยส์เซียน่า เมืองที่มีประวัติอันน่ากลัวเกี่ยวกับ ปีศาจเดอะครีปเปอร์ เมื่อตำนานที่ว่ากันว่ามันจะกลับมาล่าทุก 23 ปี ดันตรงกับเทศกาลที่กำลังจะจัดขึ้น มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสยองที่พวกเขาต้องจำไม่ลืม 

ระวังมันไว้ให้ดีเพราะมันกำลังหิวกระหาย ถึงเวลาปีศาจร้าย จี๊ปเปอร์ส ครีปเปอร์ส จะลุกขึ้นมาล่าหัวคุณอีกครั้งในภาพยนตร์สยองขวัญที่คุณไม่ควรพลาด Jeepers Creepers Reborn โฉบกระชาก กลับมาเกิด 24 พฤศจิกายนนี้ 

Friday, November 4, 2022

ชาวเน็ตว้าว "ฮันฮโยจู" และ "คิมยูจอง" แคสติ้งตรงปก เล่นบทเดียวกันตั้งแต่เด็กจนโต

ฮันฮโยจู (Han Hyo Joo) นักแสดงหญิงมากความสามารถ รับบทบาทเป็น โบรา ตัวละครตอนโตในยุคปัจจุบัน ในภาพยนตร์ 20th Century Girl โดยเวอร์ชั่นอดีตตอนเด็กถูกรับบทโดย คิมยูจอง (Kim Yoo Jung) สร้างความประทับใจ ทำเอาชาวเน็ตชื่นชมที่ได้เห็นการแคสติ้งนักแสดงที่ตรงปกขนาดนี้

โดยทั้งฮันฮโยจูและคิมยูจอง มีความเชื่อมโยงกันไม่น้อยจากผลงานก่อนหน้า โดยหากย้อนกลับไปในผลงานที่ผ่านมา คิมยูจอง มักจะได้รับบทตัวละครวัยเด็ก ที่เติบโตมาเป็น ฮันฮโยจู ในซีรีส์ก่อนหน้านี้ถึงสองเรื่องอย่างเรื่อง อิลจิแม (2008), ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ (2010) และล่าสุดใน 20th Century Girl (2022) ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงการเติบโตของตัวละครและนักแสดงเป็นอย่างมาก

คิมยูจอง เข้าวงการด้วยการเป็นนักแสดงเด็กที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นนักแสดงเจนใหม่แถวหน้าของวงการ อาทิ  อิลจิแม วีรบุรุษจอมโจร (2008), ซอนต็อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (2009), ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ (2010), Moon Embracing the Sun (2012), Love In The Moonlight (2016), Clean With Passion For Now (2019), Lovers Of The Red Sky (2021) 

ทายด้าน ฮันฮโยจู เป็นนักแสดงรุ่นพี่มากฝีมือที่อัดแน่นด้วยผลงานชื่อดังมากมาย อาทิ หนัง สั่งเข้าพ่อไปสอนหนังสือ (2006), The Beauty Inside (2015), ซีรีส์ อิลจิแม วีรบุรุษจอมโจร (2008), ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ (2010), W รักข้ามมิติ (2016), Happiness (2021) คุณล่ะ เห็นตัวละครตอนเด็กและตอนโตใน 20th Century Girl รู้สึกเชื่อมโยงเหมือนเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า!

Wednesday, November 2, 2022

บยอนอูซอก พระเอก 20th Century Girl ผู้เป็นดั่งรักแรกในชุดนักเรียน

เชื่อว่ามีหลายคนที่โดนหนุ่ม บยอนอูซอก (Byeon Woo Seok) ตกเข้าอย่างจัง จากผลงานล่าสุดของเขาอย่างภาพยนตร์เรื่อง 20th Century Girl จาก Netflix กับภาพลักษณ์ของหนุ่มหล่อแสนอ่อนโยนที่หากได้สบสายตาสักครั้งคงต้องใจสั่นอย่างห้ามไม่อยู่

20th Century Girl เล่าถึงชีวิตของวัยรุ่นในช่วงวัย 20 ปี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงเวลาแห่งความรักและมิตรภาพที่สดใสที่เกิดขึ้นในปี 1999 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของศตวรรษที่ 20 ผ่านตัวละคร โบรา เด็กสาวในวัย 17 ปีได้พบกับรักครังแรกของเธอ ที่นำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่แสนหวานและบริสุทธิ์ แต่ก็ทำให้ปวดใจ หลายปีถัดมาเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ข่าวคราวเกี่ยวกับคนรักครั้งแรกของเธอได้กลับมารื้อฟิ้นความทรงจำเกี่ยวกับความรักในวัยเยาว์ของเธออีกครั้ง ทั้งที่คิดว่าลืมได้สนิทแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความประทับใจและเรียกน้ำตาผู้ชมเป็นที่พูดถึงอย่างมากตั้งแต่เปิดตัว โดยเฉพาะตัวละคร พุงอุนโฮ ที่รับบทโดย บยอนอูซอก แม้ว่าอายุของหนุ่มอูซอกจะวัยเลข 3 แล้ว แต่เขาก็ยังถ่ายทอดคาแรกเตอร์เด็กมัธยมปลายอย่าง พุงอุนโฮ ออกมาเหมือนเป็นรักแรกของคนดู ทั้งความอบอุ่นอ่อนโยนผ่านแววตาและสีหน้า รวมทั้งความตราตรึงกระทั่งฉากสุดท้ายที่อาจทำหลายคนไม่อยากมูฟออน 

นั่นเป็นเรื่องราวในภาพยนตร์ที่ทำให้คุณตกหลุมรักเขา เราจะพาคุณมาส่องความหล่อและความเท่ของหนุ่มคนนี้ บอกเลยว่าในภาพยนตร์เหมือนเป็นรักแรกที่มาในชุดนักเรียนวัยสดใส แต่ในอินสตาแกรมหนุ่มคนนี้มาในโหมด Boyfriend Material เหมือนเป็นแฟนหนุ่มหล่อของคุณเลยล่ะ


ประวัติ บยอนอูซอก

ชื่อ บยอนอูซอก (Byeon Woo Seok)

สถานที่เกิด : โซล, เกาหลีใต้

วันเกิด : 31 ตุลาคม พ.ศ. 2534 (ค.ศ.1991)

อายุ : 31 ปี

ความสูง : 189 cm

อาชีพ : นักแสดง นายแบบ

Instagram: byeonwooseok


ผลงานการแสดงโทรทัศน์ 

  • Dear My Friends (tvN, 2016) นักแสดงรับเชิญ
  • Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo (SBS, 2016) นักแสดงรับเชิญ
  • Weightlifting Fairy Kim Bok Joo (MBC, 2016) นักแสดงรับเชิญ
  • Deserving of the Name (tvN, 2017)
  • Drama Stage History of Walking Upright (tvN, 2017)
  • Drama Stage 2019 The Dramatization Has Begun (tvN, 2019) นักแสดงรับเชิญ
  • Laughter in Waikiki 2 (JTBC, 2019) นักแสดงรับเชิญ
  • Search: WWW (tvN, 2019)
  • Flower Crew: Joseon Marriage Agency (JTBC, 2019)
  • Record of Youth (tvN, 2020)
  • Moonshine (KBS2, 2021)


ออสการ์ 2023: “มิเชล โหย่ว” ผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิง

มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับเวทีออสการ์ ด้วยการเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวที...