เป็นเรื่องน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ตลอดห้วงวันจันทร์ที่ผ่านมา ข่าวภาพยนตร์ต่างประเทศแต่ละสำนักดูเหมือนจะให้พื้นที่กับ “ซีนตบ” ของนักแสดงอย่างวิลล์ สมิธเสียจนไม่เหลือพื้นที่อื่นๆให้พูดถึงงานประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ จนเราอาจจะกล่าวได้เลยว่ารางวัลสูงสุดของเวทีออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้รับการกล่าวถึงน้อยกว่าโมเมนต์ฉาวชวนดราม่าเสียอีก
CODA กับเรื่องราวอันแสนน่าประทับใจ
ตัวหนังจะเล่าเรื่องราวของรูบี้ รอสซี่ (เอมิเลีย โจนส์) เด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ ที่โตมาในครอบครัวที่ พ่อแม่และพี่ชายหูหนวก ในทุกเช้ามืดเธอจะต้องตื่นนอนก่อนตะวันจะขึ้นเพื่อออกเดินทางไปกับครอบครัวผู้ประกอบอาชีพชาวประมง โดยรูบี้ต้องทำหน้าที่เป็นคนให้สัญญาณสื่อสารด้วยภาษามือให้กับพี่ชาย ลีโอ (แดเนียล ดูแรนต์) ผู้ที่หูหนวกเช่นเดียวกับพ่อแม่ นอกจากนี้เธอยังต้องคอยช่วยเหลือ แฟรงค์ ผู้เป็นพ่อ (ทรอย คอตเซอร์) และแจ็คกี้ ผู้เป็นแม่ (มาร์ลี แมตลิน นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์) สิ่งเดียวที่รูบี้ทำแล้วจะพอปลดปล่อยความทุกข์ในชีวิตได้คือการร้องเพลงบนดาดฟ้าเรือ
เมื่อสิ้นสุดภารกิจในยามเช้ากับการช่วยเหลือครอบครัวทำงาน รูบี้ต้องเดินทางไปโรงเรียนไฮสคูลตามวิถีวัยรุ่นทั่วไป อย่างไรก็ตามด้วยประสาความเป็นเด็กสาว เธอได้แอบชอบไมลส์ (เฟอร์เดีย วอลช์-พีโล) รูบี้จึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วมชมรมขับร้องประสานเสียง ตอนแรกเพียงเพราะเธออยากใกล้ชิดกับคนที่ชอบ แต่กลับกลายเป็นว่าครูสอนวิชาดนตรีอย่างเบอร์นาโด วิลลาโลโบส (ยูจินีโอ เดอร์เบซ) ได้เล็งเห็นความสามารถในการร้องเพลงของรูบี้ เขาจึงอยากจะผลักดันให้เธอได้มีโอกาสชิงทุนการศึกษาจากสถาบันดนตรีเบิร์กลีย์
เด็กสาวจากครอบครัวชาวประมงที่ตัวเองรู้สึกอยู่ตลอดเวลา ว่าตัวเธอเองอยู่ในครอบครัวที่แปลกประหลาด ถูกล้อจากบรรดาเพื่อนในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นคาวปลาหรือกระทั่งสภาพครอบครัวของเธอที่เป็นใบ้ รูบี้กลายเป็นเด็กสาวที่หวาดกลัวอนาคต เธอลังเลกับโอกาสที่กำลังรอคอยเธออยู่ นอกจากนี้เมื่อรูบี้ เปรียบเสมือน “กระบอกเสียง” ของครอบครัว ทำให้เธอยืนอยู่ระหว่างทางแยกที่ตัวเองต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่า เธอจะเติมเต็มความฝันของตัวเอง หรือต้องอยู่ประคับประคองครอบครัวต่อไป
สนับสนุนข้อมูลโดย ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง
No comments:
Post a Comment