สรรค์ความระทึกเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น ไทเลอร์ กิลเล็ตต์ (Tyler Gillett) กับ แมตต์ เบตติเนลลี-โอลพิน (Matt Bettinelli-Olpin) จะกลับมากำกับ และ เจมส์ แวนเดอร์บิลต์ (James Vanderbilt) กับ กาย บิวซิก (Guy Busick) จะกลับมาเขียนบท รวมถึง เควิน วิลเลียมสัน (Kevin Williamson) ผู้เขียนบท ‘Scream’ (1996), ‘Scream 2’ (1997), และ ‘Scream 4’ (2011) จะยังคงรับหน้าที่อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารเช่นเดิมด้วย
Scream (2022) เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้และคำวิจารณ์อย่างน่าเซอร์ไพรส์ ซึ่งผู้สร้างเปรียบภาพยนตร์เรื่องเป็นที่ภาคต่อและรีบูตในเรื่องเดียวกัน โดยเป็นการนำตัวละครในภาพยนตร์ต้นฉบับ ไม่ว่าจะเป็น เนฟ แคมป์เบิล (Neve Campbell), คอร์ตนีย์ ค็อกซ์ (Courteney Cox) และ เดวิด อาร์เคว็ตต์ (David Arquette) รวมถึง สกีต อูลริช (Skeet Ulrich) ที่ปรากฏตัวด้วยเทคโนโลยี De-Aged ให้กลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าตัวละครนำชุดใหม่ที่ถูกวางตัวให้สานต่อแฟรนไชส์ต่อไปในอนาคต
‘Scream’ (2022) เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 30 ล้านเหรียญ และสามารถทำรายได้โดยรวมทั่วโลกไปแล้วถึง 140 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท จากทุนสร้างเพียง 24 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 800 ล้านบาท ด้วยความที่ ‘Scream’ มักจะนำประเด็นด้านวัฒนธรรมวัยรุ่นและสังคมและแต่ละยุคมาใส่เป็นพื้นหลังได้อย่างมีสีสันอยู่เสมอ จึงทำให้น่าสนใจว่าทีมผู้สร้างจะยกระดับ ‘Scream 6’ ขึ้นไปอีกระดับอย่างไรบ้าง
สนับสนุนข้อมูลโดย ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง
No comments:
Post a Comment