เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ซอมบี้ในโลกที่ล่มสลาย เชื่อว่าหลายคนต้องคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘I Am Legend’ หรือในชื่อไทยคือ ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ ที่ฉายเมื่อปี 2007 ซึ่งได้อ้างอิงเรื่องราวมาจากนิยายในชื่อเดียวกัน โดยได้นักแสดงชื่อดังอย่าง วิล สมิธ (Will Smith) มารับบทนำ กับการแบกหนังตลอดทั้งเรื่อง เพราะถ้าใครเคยดูเรื่องนี้ในภาคแรกมาแล้ว จะทราบดีว่าตัวภาพยนตร์นั้นแทบจะไม่มีตัวละครอื่นเลย มีเพียง โรเบิร์ต เนวิลล์ (Robert Neville) นักวิทยาศาสตร์ที่พยายามค้นหาวิธีรักษาผู้ติดเชื้อในเมือง New York เพียงคนเดียว กับน้องหมาอีกหนึ่งตัว ท่ามกลางเหล่าผู้ติดเชื้อซอมบี้แต่แพ้แสงแดดในชื่อ ‘Darkseeker’ อยู่ทั่วเมือง ซึ่งใครที่เคยดูเรื่องนี้จนจบมาแล้ว จะทราบดีว่าเรื่องราวในภาพยนตร์นั้นจบลงแบบสมบูรณ์ ที่เป็นปลายเปิดถึงเรื่องราวที่ให้คนดูคิดต่อเอาเองว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไรต่อไป
ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง โดยล่าสุดทางเว็บไซต์ ‘Deadline’ ได้รายงานข่าวการประกาศสร้างภาพยนตร์ ‘I Am Legend 2’ อย่างเป็นทางการ โดยวิล สมิธจะกลับมารับหน้าที่อำนวยการสร้างและนำแสดงนำอีกครั้ง และได้ ไมเคิล บี จอร์แดน (Michael B Jordan) มาร่วมด้วย ซึ่งหลายคนที่ได้ดูภาคแรกไปแล้วคงจะสงสัยว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะในท้ายเรื่องโรเบิร์ต เนวิลล์ได้เสียชีวิตไปแล้ว และจะสร้างภาค 2 ที่มีตัวละครนี้ขึ้นมาได้อย่างไร จะเป็นการย้อนเรื่องราวเป็นช่วงก่อนจะเกิดเหตุการณ์ หรือตัวของเนวิลล์ยังไม่เสียชีวิต (แต่โดนระเบิดขนาดนั้นยังไงก็ไม่น่ารอดไปได้) แต่สำหรับคนที่เคยศึกษาเรื่องราวของ ‘I Am Legend’ มาแล้ว จะทราบดีว่าตอนจบของเรื่องนี้มา 2 แบบที่ถูกสร้างขึ้นมาและมีให้เราได้ชมใน DVD ฉบับพิเศษในตอนนั้น
โดยฉากจบแบบแรกสำหรับคนที่จำไม่ได้ เรื่องราวใน ‘I Am Legend’ จะเล่าถึงการรักษาคนป่วยที่กลายเป็นซอมบี้ ‘Darkseeker’ ซึ่งการจะรักษาผู้ป่วยได้นั้นต้องมีตัวทดลอง ซึ่งเนวิลล์ได้ไปจับ ‘Darkseeker’ หญิงคนหนึ่งมาทดลอง และสามารถรักษา ‘Darkseeker’ ตนนั้นหาย แต่การมาถึงของสองแม่ลูกที่ช่วยชีวิตเนวิลล์ในช่วงกลางเรื่องนั้น ได้ทิ้งร่องรอยให้เหล่า ‘Darkseeker’ สามารถมาบุกที่ซ่อนของเนวิลล์ได้ สุดท้ายเมื่อจนมุมไม่สามารถหนีได้ เนวิลล์จึงได้สละชีวิตตนเองระเบิดตัวพลีชีพพร้อมเหล่าซอมบี้ เพื่อเป็นการเปิดทางให้สองแม่ลูกที่แอบซ่อนอยู่สามารถรอดชีวิต และเอาเลือดที่มียาแก้เชื้อไวรัสไปให้กลุ่มคนที่สามารถสานต่อเรื่องราวนี้ได้ในการช่วยโลก ซึ่งเป็นตอนจบปกติที่เราหลายคนได้ชมกัน
ในส่วนฉากจบที่ 2 ที่ไม่ได้ถูกเอามาใช้นั้น จะใช้การเล่าเรื่องแบบเดียวกันกับแบบแรก ไปจนถึงช่วงท้ายที่เหล่า ‘Darkseeker’ จะพังประตูเข้ามา โดยที่เนวิลล์ไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนแบบแรก แต่ก่อนที่กระจกจะแตก ‘Darkseeker’ ตนนั้นได้ใช้เลือดวาดรูปผีเสื้อที่กระจก ที่เป็นการสื่อบอกเนวิลล์ว่าเขาไม่ได้มาเพื่อฆ่าเนวิลล์แต่มาเพื่อรับตัว ‘Darkseeker’ หญิงที่เขาจับมาเท่านั้น ทางเนวิลล์ที่รู้เรื่องจึงเข็นเตียงที่มีร่าง ‘Darkseeker’ สาวคนนั้นส่งคืนไป โดยที่ ‘Darkseeker’ ตนนั้นไม่ทำร้ายเขาและหนีไปจนหมด ท่ามกลางความโล่งใจของทั้งสามคน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางเพื่อเอาเลือดที่ได้ไปทำเป็นยารักษา นับเป็นฉากจบที่สมบูรณ์แบบกว่าแต่ทางผู้กำกับกลับเลือกฉากจบแบบที่เนววิล์ตาย เพราะต้องการสื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนดให้ได้พบกันของโชคชะตา ซึ่งสุดท้ายแล้วเนวิลล์ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับเรื่องนี้จนวาระสุดท้ายของเขา
ซึ่งถ้าเรื่องราวใน ‘I Am Legend 2’ เลือกตอนจบแบบนี้มาสานต่อ ก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวใหม่ที่น่าสนใจได้อย่างลงตัว ซึ่งใครที่สนใจอยากรู้ว่าฉากจบทั้งสองแบบเป็นอย่างไร ก็ลองไปหาชมได้ตาม ‘YouTube’ ดูจบคุณอาจจะถามตัวเองว่าจริง ๆ แล้ว ‘I Am Legend’ ควรจะจบแบบไหนดีที่สุด
No comments:
Post a Comment