Thursday, December 30, 2021

หมูตัวเดียวจะทำให้เขาต้องล่า! "PIG หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต" การผงาดที่สมศักดิ์ศรีที่สุดในรอบ 10 ปี

แม้จะมีผลงานให้แฟนหนังได้ชมกันทุกปี สำหรับสุดยอดนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Leaving Las Vegas (1995) อย่าง "นิโคลัส เคจ" แต่ครั้งนี้จะเป็นการหวนคืนจอภาพยนตร์ที่สมศักดิ์ศรีและทรงพลังมากที่สุดเพื่อให้แฟน ๆ ได้ยลโฉมฝีมือชั้นเซียนทางการแสดงของเขาในรอบกว่า 10 ปีเต็มกับ "PIG หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต" ที่พร้อมกลับมาปลุกความคลั่งครั้งใหม่ให้เป็นที่น่าจดจำมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการแสดงที่ต้องกระหน่ำทุกอารมณ์ให้เดือดไม่หยุด ลูกบ้าไม่มียั้ง และสีหน้าแววตาต้องสามารถสื่อความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจนหมดจด เพราะไม่เช่นนั้นการตามล่าหาหมูสุดรักของ "ร็อบ" (นิโคลัส เคจ) จะไม่เข้มข้นทะลุทุกอณูและซาบซ่านได้ถึงเพียงนี้ รีวิวซีรี่ย์ใหม่ แนะนำซีรี่ย์ NETFLIX

"หลังจากที่ได้อ่านบท 'PIG' ก็ฉุกคิดว่าบทแบบนี้คือสิ่งที่ผมมักมองหามาตลอด ความท้าทายในบท ความท้าทายที่บีบให้ผมต้องใช้ฝีมือเพื่อก้าวผ่านมันไปให้ได้ แล้วเมื่อผมได้ฟังเรื่องของผู้กำกับ (ไมเคิล ซาร์นอสกี้) ถึงการที่ต่างคนต่างเอาความโศกเศร้าเข้ามาในโลกของพวกเขาด้วยวิธีที่ต่างกัน และมันกำหนดมุมมองที่พวกเขาเห็นตนเองและคนรอบข้าง เขาเห็นสิ่งเหล่านี้จากภายในครอบครัว ซึ่งมันก็สะท้อนมาที่ตัวของผมเองด้วย" นักแสดงชื่อดังวัย 57 ปีกล่าว "เรื่องของความสูญเสียที่หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตมนุษย์ทุกคนในรูปแบบต่าง ๆ และหลังจากผ่านไปหลายปี มุมมองเหล่านั้นก็กลายเป็นความจริงที่แตกต่างของเราแต่ละคน ไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นทันทีทันใดในขณะที่กำลังเศร้าโศก แต่เป็นผลในระยะยาวที่เป็นตัวกำหนดการรับรู้ให้ถักทอชีวิตและพื้นฐานของจิตสำนึกของคนเรา สิ่งเหล่านี้มันสามารถทำให้เราก่อกำแพงขึ้นล้อมรอบตัวเราและที่กั้นเราจากผู้อื่น หรือแม้กระทั่งคนที่กำลังเผชิญสิ่งเดียวกันในแบบของเขาเอง ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้ชมจะได้สำรวจมัน โดยผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับชายสูงวัยที่สวมเสื้อผ้ารุ่งริ่งอาศัยอยู่ตามลำพังในป่า และหมูตัวหนึ่งที่ถูกขโมยไป"

แล้วแน่นอนว่าด้วยความทุ่มเทของ "นิโคลัส เคจ" ที่พยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับตำแหน่ง 'นักแสดงนำชาย' ที่เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงจากหลายเวทีนักวิจารณ์ชั้นนำของอเมริกา เพราะบทบาทที่เขาได้รับนั้นทั้งหนักหน่วงและมีมิติอารมณ์ที่ซับซ้อนในการเป็นทั้งผู้ชายที่สูญเสียทุกอย่างในชีวิต และยังต้องโดนพรากสิ่งที่มีค่าชิ้นสุดท้ายไปอย่างไม่ใยดี แต่เคจก็ส่งพลังการแสดงอันเหลือล้นของเขาทั้งหมดออกมา จนคนดูต่างเชื่อในความเจ็บปวดรวดร้าวของตัวละครนั้นจริง ๆ และใส่เต็มถึงขนาดได้เลือดจริง ๆ กลับมาจากกองถ่ายกันเลยทีเดียว "เพราะหมูที่เราใช้ถ่ายทำนั้น มันค่อนข้างจะตื่นกลัวอยู่ตลอดเวลา และมักชอบกัดนิ้วผมจนเลือดออกบ่อย ๆ ผมเลยลองคิดติดตลกดูว่าถ้าสักวันหนึ่งรถของผมเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำขึ้นมา ตัวผมน่าจะได้รับบาดเจ็บจากภาวะติดเชื้อที่ถูกหมูกัดมากกว่า)"   เตรียมระทึกดิ่งสุดขั้วอารมณ์ และพร้อมรับความถาโถมไปกับสุดยอดพลังทางการแสดงที่ดีที่สุดจนห้ามพลาดของ "นิโคลัส เคจ" กับภารกิจแค้นต้องล่า "PIG หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต" Just Look Pig พร้อมกันต้อนรับปีใหม่ 6 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

Wednesday, December 29, 2021

Batman จับมือ Catwoman ปกป้องก็อตแธม ในตัวอย่างล่าสุดของ ‘The Batman’

หลังจากสร้างความตื่นเต้นในการได้เห็นความมืดหม่นและจริงจังในตัวอย่าง 2 เวอร์ชัตนแรกของ ‘The Batman’ ไปแล้วนั้น ล่าสุด Warner Bros. ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ลำดับที่ 3 ของ ‘The Batman’ ที่เผยให้เห็นว่า Batman หรือ Bruce Wayne นั้น ได้ร่วมทีมกับ Catwoman เพื่อยับยั้งแผนการร้ายของ The Riddler ที่ต้องการทำให้นครก็อตแธมลุกเป็นไฟ แนะนำซีรี่ย์เกาหลี

ความสัมพันธ์ระหว่าง Batman และ Catwoman เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของคอมิกและภาพยนตร์ ‘Batman’ มาโดยตลอด เนื่องจากทั้ง 2 ตัวละครนี้มีเคมีที่เข้ากันมาก และสามารถสร้างสมดุลให้แก่ตัวละครอีกฝ่ายได้อย่างน่าสนใจ ‘The Batman’ ของผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) นี้ ได้นักแสดงหนุ่มขวัญใจสาว ๆ จากแฟรนไชส์ ‘Twilight Saga’ อย่าง โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) มารับบท Bruce Wayne หรือ Batman และได้นักแสดงสาวที่กำลังมาแรงอย่าง โซอี้ คราวิทซ์ (Zoë Kravitz) มารับบทเป็น Selina Kyle หรือ Catwoman ซึ่งทั้ง 2 คน ได้รับการยอมรับจากแฟน ๆ DCEU (DC Extended Universe) เป็นอย่างมากว่าดูมืดหม่นและเท่ห์มาก ๆ

นอกจากนี้ นักแสดงมากความสามารถอย่าง พอล ดาโน (Paul Dano) ได้มารับบท Riddler มนุษย์เจ้าปัญหาที่วางแผนการร้ายอยู่เบื้องหลัง และนัำกแสดงรุ่นใหญ่อย่าง โคลิน ฟาร์เรล (Colin Farrell) ที่มารับบท Penguin หนี่งในเจ้าพ่ออาชญากรรมของก็อตแธม ‘The Batman’ มีกำหนดฉายในวันที่ 4 มีนาคม 2022 และทาง Warner Bros. ก็ยังได้ประกาศแผนสร้างภาพยนตร์ที่แยกเนื้อเรื่องออกมาจาก ‘The Batman’ อีก 2 เรื่อง สำหรับฉายทางบริการสตรีมมิง HBO Max ที่ Warner Bros. เป็นเจ้าของ โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่กรมตำรวจก็อตแธมและจุดกำเนิดในโลกอาชกรรมของ Penguin


Tuesday, December 28, 2021

เตรียมส่งท้ายปีไปกับความรักของ 2 คนแปลกหน้า ใน Remember You

กลับมาให้ผู้ชมได้ลุ้นไปอีกครั้ง กับเรื่องราวความรักของทนายหนุ่มและหญิงสาว ที่พบเจอกันด้วยความบังเอิญ ใน “Remember You ” เรื่องราวของทนายหนุ่ม (ยอน ซอ ควอ) รับบทโดย “จองวูซอง” ที่ชีวิตกำลังรุ่งเรือง แต่กลับต้องมาพลิกผันเจอกับวิกฤติ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ความทรงจำในช่วง 10 ปีหายไป แต่กลับมาได้พบเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง (คิมจินยอง) รับบทโดย “คิมฮานึล” ที่ดวงชะตาทำให้ทั้งคู่ต้องมารักกัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่เคยพบเจอกันมาก่อน และที่สำคัญในความรักครั้งนี้ ยอนซอควอ ก็มีเรื่องที่ติดค้างในใจ เมื่อเขามักจะคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่สามารถจำเธอได้ และไม่สามารถนึกใบหน้าของเธอได้ชัดเจนสักครั้ง ทำให้เขาอยากรู้ว่า เธอคนนี้คือใครกันแน่ และจะใช่คนรักของตัวเองในอดีตหรือเปล่า

สนับสนุนข้อมูลโดย อนิเมะจีน

Monday, December 27, 2021

Spider-Man No Way Home ทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 1,000 ล้านเหรียญแล้ว

เป็นไปตามคาดกับหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทุกคนรอคอย ล่าสุดเว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า ‘Spider-Man: No Way Home’ ทำรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 1,050 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 35,100 ล้านบาท จากการฉายเพียง 12 วัน จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท แนะนำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น

นั่นได้ส่งผลทำให้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ขึ้นเป็นภาพยนตร์ของ Sony Pictures ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 2 ตามหลัง ‘Spider-Man: Far From Home’ (2019) ที่ทำไว้ 1,130 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 37,800 ล้านบาท นี่ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในช่วงการระบาดของ COVID-19 ที่สามารถทำรายได้ถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังมิได้เข้าฉายที่ประเทศจีนเลยด้วย

นอกจากนี้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ยังกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ เร็วที่สุดลำดับที่ 2 รองจาก ‘Avengers: Endgame’ (2019) ที่ทำเอาไว้เพียง 6 วันอีกด้วย ‘Spider-Man: No Way Home’ เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั่วโลกตั้งความหวังเอาไว้สูงมากจากตอนจบของ ‘Spider-Man: Far From Home

Saturday, December 25, 2021

ภาพยนต์ The Matrix 4 : Resurrections (2021) หนังดังกระแสแรงแด่ความรักที่ผู้ชมรอคอยมาถึง 19 ปี

ภาพยนต์ชนโรงเรื่องดัง The Matrix 4 : Resurrections (2021) เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์ ที่มาพร้อมกับความทรงจำในวันวานของวัยว้าวุ่นที่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นหนัง “ล้าสมัย” สำหรับเหล่าวัยรุ่นยุคใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับหนังมาร์เวลเสียแล้ว วัดได้อย่างชัดเจนจากความหนาแน่นของผู้ชมในโรงภาพยนตร์สัปดาห์ที่ผ่านมาและการพูดถึงตัวหนังทางโซเชียลมีเดีย ที่ดูเงียบเหงาและดูจะถูกสไปเดอร์แมนกลบมิด

The Matrix สามภาคแรก เป็นเหมือนบทบันทึกสำคัญในช่วงต้นปี 2000 ที่นอกจากจะนำเสนองานเทคนิคด้านภาพอันแสนน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว มันยังผนวกปรัชญาที่ตั้งคำถามว่า ความจริงคืออะไร บางที่สิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นจริงอาจจะเป็นแค่เพียงโลกสมมติ (เฉกเช่นใน The Matrix) เจตจำนงเสรีว่าด้วยอิสระในการเลือกกระทำสิ่งที่มนุษย์ต้องการนั้นมีอยู่จริงหรือเปล่า

จุดเด่นของหนังไตรภาค อยู่ตรงที่สไตล์การกำกับคิวบู๊ที่สดใหม่ในเวลานั้น ในการนำศิลปะการต่อสู้แบบกังฟู มาใช้กับเทคนิคการเคลื่อนกล้องแบบ Bullet Time Scene ที่กล้องจะเคลื่อนที่แบบสไลว์โมชั่นไปรอบๆวัตถุที่ถูกจับภาพ จนกลายเป็นนวัตกรรมอันน่าตื่นตะลึง ยังไม่รวมไปถึงการใช้โทนสีเขียวๆอันเป็นโลกจำลองของเดอะเมทริกซ์ ส่วนโลกมนุษย์แห่งความเป็นจริงที่ตกอยู่ภายใต้การคุกคามของจักรกลนั้นเป็นโทนสีทึมๆให้ความรู้สึกหดหู่

การมาถึงของ The Matrix Resurrections แน่นอนว่าผู้ชมที่เป็นฐานของหนังภาคนี้คือต้องดูหนัง 3 ภาคแรกมาก่อน ดังนั้น “ภาพจำ” ของไตรภาคเมื่อ 19 ปีก่อนที่ยังติดตรึงไว้ในความทรงจำ ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้ชมมองหาในหนังภาคล่าสุด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหนังภาคนี้ไม่ได้สร้าง “นวัตกรรมใหม่” ใดๆขึ้นมาก นอกเสียจากจะเป็นการย้อนกลับไปเสียดสีหนังไตรภาคพร้อมกับเล่าประเด็นที่จับต้องได้และมีความ “ส่วนตัว” มากขึ้นนั่นคือความรักระหว่างนีโอและทรินิตี้

ขณะเดียวกันหนังภาคนี้ยังให้รายละเอียดอีกว่าโทมัส แอนเดอร์สัน (คีอานู รีฟฟ์) ในวัยกลางคนเขาประกอบสัมมาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ผู้ออกแบบเกม The Matrix ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมก็คือหนังทั้งสามภาคแรกที่เราเคยได้รับชมไปนั่นเอง ทว่าชีวิตของโทมัสที่เหมือนจะไปได้สวย เขากลับต้องไปพบจิตแพทย์ (นีล แพทริก แฮริส) อยู่เสมอๆเนื่องจากอาการเห็นภาพหลอนเสมือนจริง ทั้งที่จริงแล้วเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งโทมัสได้พบกับทิฟฟานี่ (แครี่ แอนน์ มอส) คุณแม่ลูกสามที่ร้านกาแฟ ซึ่งทั้งสองคนมีความรู้สึกอันแปลกประหลาดราวกับว่าทั้งสองเคยรู้จักกันมาเมื่อนานมากแล้ว

จากสิ่งเหล่านี้เราอาจจะพอสรุปได้เลยว่า ความรักที่ตัวละครทั้งสองมีให้กันนั้นคือสิ่งที่เป็นพลังงานบริสุทธิ์และนำพาชีวิตของพวกเขาให้หลุดพ้นจาก การถูกจองจำอยู่ภายในระบบวนลูปในเดอะเมทริกซ์ การได้ตื่นขึ้นของนีโอและทรินิตี้สู่โลกแห่งความเป็นจริง คือภาพตอนจบที่คนดูหนังในไตรภาคชุดแรกเคยอยากเห็นแต่ไม่มีโอกาสจะได้เห็นมาก่อน ตอนนี้ The Matrix Resurrections ได้มอบตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งที่คนดูรอคอยมานานแสนนานเสียที

ออสการ์ 2023: “มิเชล โหย่ว” ผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิง

มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับเวทีออสการ์ ด้วยการเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวที...