Leslie Jordan นักแสดงซิตคอม Will & Grace เสียชีวิตในวัย 67 ปี

Leslie Jordan นักแสดงฮอลลีวูดเจ้าของรางวัล Emmy Awards ในปี 2005 ผู้รับบท Beverly Leslie ในซิตคอมเรื่อง Will & Grace เสียชีวิตในวัย 67 ปีจากอุบัติเหตุรถชน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา

สำนักข่าว Los Angeles Times รายงานว่า Leslie Jordan ขับรถ BMW ชนเข้ากับข้างตึกแห่งหนึ่งที่ถนน Cahuenga Boulevard และ Romaine Street ในฮอลลีวูด ในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น เขาเสียชีวิตที่เกิดเหตุ โดยยังไม่ได้ระบุถึงสาเหตุของการชน หรือสาเหตุของการเสียชีวิตว่ามาอุบัติเหตุโดยตรง หรือมาจากปัญหาบางอย่างที่ทำให้เขาเสียการควบคุมของรถจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ

Leslie Jordan มีผลงานที่แฟนๆ รู้จักกันดีในบท Beverly Leslie ของซิตคอมสุดอมตะของอเมริกาเรื่อง Will & Grace ซีซั่น 3 นอกจากนี้เขายังมีผลงานอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ซีรีส์ American Horror Story, ซิตคอมเรื่อง Call Me Kat, The Cool Kids, ภาพยนตร์เรื่อง The Help, Strangers in a Strange Land และในปี 2021 ยังเคยมี Company’s Comin’ ผลงานอัลบั้มเพลงแนวคลาสสิกกอสเปลร่วมกับศิลปินชื่อดังมากมาย 

เช่น Dolly Parton, Eddie Vedder, Tanya Tucker, Brandi Carlile, Chris and Morgane Stapleton, TJ Osborne, Ashley McBryde, Howard และนักแต่งเพลง Danny Myrick อัลบั้มไต่ขึ้นไปสูงสุดที่อันดับ 13 ในชาร์ต Top Christian Albums ของ Billboard เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2021

เปิดศึกสวดส่งวิญญาณร้ายไปลงนรก หนังขับไล่ปีศาจสุดเดือด Prey For The Devil

ฮาโลวีนนี้ คริสตจักรเตรียมเปิดศึกกับปีศาจร้าย ส่ง ซิสเตอร์แอน นักปราบผีหญิงที่พระเจ้าสาปให้เธอมาสู้ ในภาพยนตร์ที่แฟนหนังสยองขวัญต่างรอคอย Prey for the Devil สวดส่งไปลงนรก การันตีความสยองด้วยทีมสร้างมากฝีมือ พอล บรู๊คส์ (The Haunting in Connecticut และ White Noise) โปรดิวเซอร์ แท็กทีมผู้กำกับสายสยองมือหนึ่ง แดเนียล แสตมม์ (The Last Exorcism) ที่กลับมาครั้งนี้พวกเขาถึงกับเอ่ยปากว่าเขาจะสร้างความน่าตื่นเต้นและเล่าถึงประเด็นใหม่ ๆ ที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง

“มันคือความระทึกแบบน็อนสต็อป” แดเนียล แสตมม์  ผู้กำกับ เมื่อโลกถูกปีศาจร้ายรังควาน ศาสนจักรจึงส่งบาทหลวงออกมาเพื่อขับไล่แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งพบกับ “ซิสเตอร์แอน” (แจ็กเกอลีน ไบเยอร์ส) เธอคือความหวังเดียวที่จะหยุดมันได้ เพราะพรสวรรค์บางอย่างที่แม้แต่กฎของคริสตจักรยังต้องยอมยกเว้น ศาสตราจารย์ควินน์ (โคลิน แซลมอน) จึงเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาไล่ผีให้กับเธอ ซิสเตอร์แอนจึงต้องร่วมมือกับ หลวงพ่อดันเต้ (คริสเตียน นาวาร์โร) ออกไปขับไล่ปีศาจร้าย แต่แล้วความน่ากลัวที่ไม่มีใครกล้าต่อกรก็อยู่ตรงหน้า เมื่อพวกเขาทั้งสองต้องเผชิญกับปีศาจที่ที่มีอำนาจรุนแรงที่สุด โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าสิ่งที่ติดตัวเธอมานั้นคือพรสวรรค์ หรือ คำสาปจากพระเจ้ากันแน่ เตรียมเผชิญหน้าสงครามไล่ปีศาจสุดเดือดพร้อมกัน 27 ตุลาคมนี้

"ซออินกุก-จางดงยุน" ยิ่งเลว...ยิ่งรอด ปลุกความเดนมนุษย์บนเรือคลั่ง ใน Project Wolf Hunting

ล่องไปกับความตายบนเรือคลั่ง ซออินกุก-จางดงยุน นำทีมเดนมนุษย์ข้ามทุกมิติความบ้าสุดเดือดเกินคาดเดา จับตาดูทุกวินาที Project Wolf Hunting เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์ ที่สุดแห่งปรากฏการณ์แอ็กชัน-เอ็กซ์ตรีม ที่คนดูทั่วโลกเทคะแนนให้ 100% เต็ม! 3 พฤศจิกายนนี้ ข่าวหนังใหม่

วอร์มร่างกายของคุณให้พร้อมก่อนพบกับปรากฏการณ์สุดคลั่งของภาพยนตร์แอ็กชัน-เอ็กซ์ตรีมบล็อกบัสเตอร์ที่ทั่วโลกต่างเทคะแนนให้กับ Project Wolf Hunting เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์ โปรเจกต์คลั่งบนเรือนรกที่บรรทุกนักโทษเดนมนุษย์กว่า 47 ชีวิตมุ่งหน้าสู่โซล ไร้กฎหมาย ไร้ทางหนี ผลงานเดือดระห่ำล่าสุดจากผู้กำกับ Metamorphosis และ The Chase ที่กวาดคำชม และกระแสการตอบรับได้อย่างสมศักดิ์ศรีการันตีความมันส์จากการฉายในเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น L’etrange International Film Festival, Fantastic Fest Film Festival และ Toronto International Film Festival รวมถึงเปิดตัวมาด้วยคะแนนจากผู้ชม 100% เต็ม! และจากนักวิจารณ์สูงถึง 85%

ซึ่งล่าสุดภาพยนตร์ปล่อย ตัวอย่างแรก และ ใบปิดเวอร์ชั่นไทย ออกมาจัดเต็มแอ็กชันสุดโหดบนเรือคลั่งมนุษย์สังเวยด้วยมนุษย์ กับสถานการณ์สุดระทึกหลังจากสนามบินโดนระเบิดอย่างปริศนา วิธีเดียวที่จะขนส่งนักโทษอุกฉกรรจ์จากมะนิลากลับเกาหลีได้มีเพียงแค่ทางน้ำเท่านั้น อาชญากรเดนมนุษย์ทั้ง 47 ชีวิตต้องเดินทางด้วยเรือฟรอนเทียร์ ไททัน ระยะทางกว่า 1,630 ไมล์ ท่ามกลางความเดือด และความอำมหิตของเหล่าอาชญากรที่ต้องการอิสรภาพต่างรวมตัวกันก่อกบฏเพื่อหลบหนีและแหกคุกปิดตายกลางทะเล พร้อมเผชิญหน้ากับมือปราบมือหนึ่งที่มาร่วมปฏิบัติการณ์บนเรือคลั่งเหนือผืนน้ำในครั้งนี้ เมื่อไร้กฎ ไร้ทางหนี ทางเดียวคือ ยิ่งเลว ยิ่งรอด

นอกจากนี้ความเข้มข้นของ Project Wolf Hunting ยังไม่หมดแค่ความเดือดเลือดสาด แต่ยังเป็นสุดยอดโปรเจกต์ที่รวมนักแสดงชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซออินกุก (Reply 1997, Doom at Your Service), จางดงยุน (School 2017, The Tale of Nokdu), ซองดงอิล (Reply 1988, Metamorphosis), พัคโฮซาน (Penthouse 2-3, Prison Playbook), จองโซมิน (Because This Is My First Life, Alchemy of Soul), โกชางซอก (Be with You, Encounter) และ จางยองนัม (It's Okay to Not Be Okay, Seobok)

ทั่วโลกคลั่งแล้ว เมืองไทยพร้อมรึยัง เตรียมระห่ำเลือดสาดไปกับโปรเจกต์คลั่งบนเรือนรกกลางทะเลสุดโหด ไร้กฎหมาย ไร้ทางหนี จากมะนิลามุ่งหน้ากรุงโซล ขน 47 อาชญากรเดนมนุษย์ ใครเลวที่สุดเท่านั้นถึงจะรอด ใน Project Wolf Hunting เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์ 3 พฤศจิกายนนี้

Disney ปล่อยโปสเตอร์ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น The Little Mermaid

วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ ปล่อยโปสเตอร์ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น “Disney’s The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย” จากแอนิเมชันคลาสสิคในปี 1989 เจ้าของรางวัลออสการ์ถึง 2 สาขา ทั้งสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเพลง Under the Sea และสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม กำกับภาพยนตร์โดย ร็อบ มาร์แชลล์ (Rob Marshall) เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 25 พฤษภาคม 2023

“Disney’s The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย” เรื่องราวสุดคลาสสิคของ “แอเรียล” นางเงือกสาวผู้งดงามและเปี่ยมไปด้วยสปิริตการผจญภัย นำแสดงโดย ฮัลลี เบลีย์ (Halle Bailey) ผู้รับบทแอเรียลตอนโต ร่วมด้วย เดวีด ดิกส์ (Daveed Diggs) ผู้ชนะรางวัล Tony Award ให้เสียงพากย์ Sebastian เจคอบ เทรมเบลย์ (Jacob Tremblay) ให้เสียงพากย์ Flounder อควาฟินา (Awkwafina) จาก Disney’s Raya and The Last Dragon รายากับมังกรตัวสุดท้าย ให้เสียงพากย์ Scuttle โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง (Jonah Hauer-King) จากภาพยนตร์ A Dog's Way Home เพื่อนรักผจญภัยสี่ร้อยไมล์ กับบทเจ้าชายอีริค Art Malik จากซีรีส์ Homeland รับบท Sir Grimsby ร่วมด้วย Noma Dumezweni 

จากภาพยนตร์ Disney’s Mary Poppins Returns แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ กลับมาแล้ว รับบท Queen Selina กับเจ้าของรางวัลออสการ์ Javier Bardem จากภาพยนตร์ No Country for Old Men และ Being the Ricardos รับบท King Triton และผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สองครั้งอย่าง เมลิสซา แม็กคาร์ธี (Melissa McCarthy) จากภาพยนตร์ Can You Ever Forgive Me? และ Bridesmaids ในบทเออร์ซูล่า ลูกสาวคนเล็กตัวแสบของ King Triton เรื่องราวที่แอเรียลต้องการจะให้ค้นหาความจริงเกี่ยวกับโลกเหนือสมุทร และเมื่อไปเยือนยังโลกมนุษย์ก็ได้ตกหลุมรักกับเจ้าชายอีริคผู้ห้าวหาญ อย่างไรก็ตามกฎของโลกใต้สมุทรได้ห้ามนางเงือกมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ แอเรียลที่ต้องการทำตามเสียงของหัวใจจึงได้ร่วมมือกับเออร์ซูล่า แม่มดร้ายแห่งท้องทะเล ที่จะทำให้เธอได้สัมผัสชีวิตบนบก แต่ท้ายที่สุดก็ทำให้ชีวิตของเธอและมงกุฎของพ่อตกอยู่ในอันตราย

Robbie Coltrane ผู้รับบท “แฮกริด” ใน Harry Potter เสียชีวิตในวัย 72 ปี

WME ต้นสังกัดของ Robbie Coltrane นักแสดงมากฝีมือจากสกอตแลนด์ ผู้รับบทตัวละคร “แฮกริด” ในภาพยนตร์แฟรนไชส์ Harry Potter และนักแสดงจากซีรีส์สืบสวนสอบสวนของอังกฤษเรื่อง Cracker แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเขากับสื่อมวลชน โดยเขาจากไปในวัย 72 ปี และยังไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต

Robbie Coltrane หรือชื่อจริง Anthony Robert McMillan เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1950 ในเมือง Glasgow เป็นลูกชายของคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นหมอและครู จบการศึกษาจาก Glasgow Art School และศึกษาต่อด้านศิลปะที่ Moray House College of Education

เขาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักแสดงตลกและนักแสดงละครเวที และยังได้มีโอกาสร่วมถ่ายทำภาพยนตร์ James Bond ในภาค GoldenEye และ The World Is Not Enough โดยภายหลังเขาเปลี่ยนชื่อเป็น Robbie Coltrane เพื่อเป็นเกียรติกับ John Coltrane ศิลปินแจ๊สระดับตำนาน และเริ่มต้นงานแสดงอย่างจริงจังในลอนดอน โดยงานในโทรทัศน์ช่วงแรกๆ ของเขาได้แก่เรื่อง Flash Gordon, Blackadder และ Keep It in the Family

นอกจากบทบาทในการเป็น รูเบอัส แฮกริดในทุกภาคของภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter แล้ว ในปี 2019 เขายังได้นำแสดงในหนังสั้นแนวแฟนตาซีเรื่อง Hagrid’s Magical Creatures Motorbike Adventure เขียนหนังสืออัตชีวประวัติของเขา Coltrane in a Cadillac ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับรายการทีวีในปี 1993 ที่เขาถ่ายทำด้วยการขับรถไปทั่วอเมริกาจากลอสแองเจลิสไปนิวยอร์กด้วยรถคาดิลแลคปี 1951

สนับสนุนข้อมูลโดย ข่าวหนังใหม่

Tom Cruise จะได้เป็นนักแสดงคนแรกที่ได้ถ่ายหนังบนชั้นอวกาศนอกโลก

Tom Cruise กำลังจะได้เป็นนักแสดง รวมถึงเป็นพลเรือนคนแรกที่ได้เดินสำรวจอวกาศนอกสถานีอวกาศนานาชาติเป็นคนแรก เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ Donna Langley ประธานบริษัท Universal Pictures ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Tom Cruise เป็นโปรเจกต์ที่ทาง Universal สนับสนุนงบประมาณในการถ่ายทำถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 7.6 พันล้านบาท โดยจะมีฉากที่ Tom Cruise ถ่ายทำที่สถานีอวกาศนานาชาติ และออกมาเดินสำรวจอวกาศภายนอกด้วย นับว่าเป็นพลเรือน หรือคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นนักบินอวกาศและทีมงาน และเป็นนักแสดงคนแรกที่ได้เดินสำรวจอวกาศนอกสถานีอวกาศนานาชาติเป็นคนแรก

“Tom Cruise จะพาพวกเราไปในอวกาศ จะพาทุกคนบนโลกไปสำรวจอวกาศ นี่คือแผนที่พวกเราวางเอาไว้” Donna Langley ให้สัมภาษณ์กับ BBC “พวกเราพัฒนาโปรเจกต์ยิ่งใหญ่นี้ร่วมกันกับ Tom ที่วางไว้ให้เขาทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขึ้นจรวดพุ่งไปที่สถานีอวกาศ และถ่ายหนังที่นั่น หวังว่าเขาจะได้เป็นพลเรือนคนแรกที่ได้เดินสำรวจอวกาศนอกสถานีอวกาศจริงๆ”

“จริงๆ แล้วการถ่ายทำส่วนใหญ่จะอยู่บนโลก แต่ตัวละครจะมีเรื่องที่ต้องบินขึ้นไปที่อวกาศเพื่อกู้โลก” ตัวละครของ Tom Cruise จะเป็นผู้ชายที่ดวงตก และจับพลัดจับผลูกลายเป็นคนเดียวที่จะสามารถกู้โลกได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะกำกับโดย Doug Liman ที่เคยร่วมงานด้วยกันกับ Tom Cruise ในภาพยนตร์เรื่อง Edge of Tomorrow (2014) และ American Made (2017) และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ร่วมงานกับ NASA และ SpaceX ของ Elon Musk แต่ก็ยังไม่มีภาพยนตร์อวกาศเรื่องไหนที่ได้ออกไปถ่ายที่สถานีอวกาศนอกโลกกันจริงๆ

Amsterdam ภาพยนตร์สืบสวนคอมเมดี้ ลุ้นขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์แห่งปี

ได้เวลาล้างมลทิน ภาพยนตร์ลึกลับซ่อนปริศนา อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ที่เล่าเรื่องราวปฏิบัติการลับของแก๊งสามเพื่อนรักนำโดย คุณหมอ ‘Burt Berendsen’ รับบทโดย “คริสเตียน เบล (Christian Bale) พยาบาลหญิง ‘Valerie Voze’ รับบทโดยมาร์โกต์ ร็อบบี้ (Margot Robbie) และนายทหารหนุ่ม ‘Harold Woodman’ รับบทโดยจอห์น เดวิด วอชิงตัน (John David Washington) ผลงานล่าสุดจากค่ายทเวนตีท์ เซ็นจูรี สตูดิโอส์  (20th Century Studios’) และนิว รีเจนซี่ (New Regency) หลังจากเปิดตัวทั่วโลกแล้วนั้น ก็สร้างเสียงฮือฮาและได้รกับการพูดถึงอย่างหนาหูว่าเป็นภาพยนตร์เตรียมขึ้นแท่นภาพยนตร์แห่งปีที่ไม่ควรพลาด และในรอบพิเศษของประเทศไทยก็ได้รับเสียงปรบมือดังสนั่นโรงภาพยนตร์พร้อมกระแสการันตีความสนุกครบรสของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่แฟน ๆ ต้องห้ามพลาด!

นักวิจารณ์และผู้ชมต่างลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าบทภาพยนตร์ของ “อัมสเตอร์ดัม” (Amsterdam) มีความคลาสสิคและถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างร่วมสมัย ผสมกับมุกตลกคอมเมดี้ในเรื่องของตัวละครถูกถ่ายทอดเรื่องราวในภาพยนตร์ออกมาได้อย่างกลมกล่อม สมกับที่ได้ดาราฮอลลีวูดทั่ววงการมาร่วมแสดงและฝากฝีมือกับภาพยนตร์ตำนานเรื่องนี้ นักแสดงทุกคนแสดงออกมาได้เกินมาตรฐาน บวกกับลวดลายการแสดงความเฉพาะตัวของแต่ละคนแต่เข้ากันอย่างลงตัว จนในรอบปฐมทัศน์มีเสียงปรบมือหลุดมาเป็นระยะ ๆ

ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้นักวิจารณ์เทคะแนนให้กับหนังเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้นฝีมือการแสดงของทัพนักแสดงฮอลลีวูดที่ผู้ชมคุ้นหน้าคุ้นตา นำทีมด้วยสามเพื่อนรัก คริสเตียน เบล (Christian Bale) เจ้าของของรางวัลออสการ์ ร่วมด้วยผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึงสองครั้งอย่าง มาร์โกต์ ร็อบบี้ (Margot Robbie) และจอห์น เดวิด วอชิงตัน (John David Washington) ประกอบกับเจ้าของรางวัลออสการ์สองรางวัลอย่าง โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro) ผู้ชนะรางวัลออสการ์ รามี มาเลก (Rami Malek) แอนยา เทย์เลอร์-จอย (Anya Taylor-Joy) แอนเดรีย ไรซ์โบโรห์ (Andrea Riseborough) โซอี ซัลดานา (Zoe Saldaña) อาเลสซานโดร นิโวลา (Alessandro Nivola) คริส ร็อก (Chris Rock) แมตเธียส โชนาร์ตส์ (Matthias Schoenaerts) ไมเคิล แชนนอน (Michael Shannon) ไมก์ ไมเยอส์ (Mike Myers) และเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift)

Angelina Jolie ฟ้องร้อง Brad Pitt เคยทำร้ายตัวเอง บีบคอ-ตบหน้า-ราดเบียร์ใส่ลูกๆ

ท่าทางจะจบไม่สวย เมื่อสื่อนอกตีแผ่ข่าวว่าแองเจเลน่า โจลี่ ฟ้องแบรด พิตต์ หลังเธอและลูกๆ เคยถูกทำร้ายในปี 2016 จากบันทึกของศาลที่เกี่ยวกับการแย่งชิงไร่ไวน์องุ่น Château Miraval ที่ฝรั่งเศสที่ทั้งคู่เป็นเจ้าของร่วมกันเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว Angelina Jolie เผยว่า Brad Pitt ผู้เป็นสามีของเธอในขณะนั้นเคยทำร้ายร่างกายเธอและลูกๆ ของพวกเขามาก่อนในช่วงปี 2016 ระหว่างที่โดยสารอยู่ในเครื่องบินส่วนตัวด้วยกัน และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็นำไปสู่การหย่าร้างในภายหลัง

ฝั่งทนายของโจลี่ระบุว่า ข้อตกลงในการขายหุ้นส่วนทางธุรกิจในส่วนของโจลี่ให้กับแบรด พิตต์ เป็นอันยกเลิก หลังจากที่แบรด พิตต์ขอให้โจลี่เซ็น “สัญญารักษาความลับ ห้ามไม่ให้โจลี่พูดนอกศาลว่าเธอและลูกๆ ถูกแบรด พิตต์ทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ”

ฝั่งโจลีให้ข้อมูลต่อศาลว่า เธอและลูกๆ ทั้ง 6 คน เคยถูกแบรด พิตต์ทำร้ายทั้งจากทางร่างกายและวาจาในเดือนกันยายน ปี 2016 ระหว่างที่ทั้งครอบครัวโดยสารเครื่องบินส่วนตัวเดินทางจากฝรั่งเศสไปแคลิฟอร์เนีย แบรด์ พิตต์กล่าวหาว่าโจลี่ “ประคบประหงม” ลูกๆ มากเกินไป แล้วเริ่มตะโกนใส่เธอในห้องน้ำ

“โจลี่พยายามอย่างมากที่จะปกป้องลูกๆ ของเธอจากการถูกทำร้ายของแบรด พิตต์ ในระหว่างที่มีปากเสียงกันในครอบครัววันนั้น แต่เมื่อพิตต์ฟ้องคดีนี้เพื่อพยายามควบคุมชีวิตทางการเงินของโจลี่และบังคับให้เธอกลับไปสมทบกับอดีตสามีของเธอในฐานะหุ้นส่วนธุรกิจอย่างเยือกเย็น จึงทำให้พิตต์บังคับให้โจลี่ต้องออกมาปกป้องตัวเองในประเด็นเหล่านี้อย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก” อย่างไรก็ตาม ฝั่งทนายของแบรด พิตต์ออกมาชี้แจงว่า เขาไม่เคยทำร้ายเด็กๆ แต่ยอมรับว่าเขามีปัญหาเรื่องแอลกอฮอล์

ทีม VFX หนัง Avatar ภาคแรก ออกมาแฉการทำงานสุดเลวร้ายกับ James Cameron

Avatar ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกนั้นได้แสดงให้ผู้คนเห็นว่าศักยภาพของเทคโนโลยี VFX ของวงการภาพยนตร์ ได้ก้าวล้ำมากเพียงใดในปี 2009 ซึ่งมันก็ต้องยกความดีความชอบในเรื่องนี้ให้ผู้กำกับ James Cameron และเหล่าศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังการรังสรรค์ภาพที่ตระการตาเหล่านั้น

แต่ดูเหมือนการสร้างผลงานชิ้นเองนี้จะไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะสภาพการทำงานของศิลปิน VFX นั้นช่างเลวร้าย โดนบังคับให้ทำงานอย่างหักโหม และไม่รับค่าตอบแทนชดเชยในส่วนนั้นด้วย โดยทาง Nick Sinnot ผู้มีส่วนทำงานใน Avatar ภาคแรกได้ออกมาแฉเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ก่อนจะลบออกไปไว้ว่า

“สิ่งที่น่าตลกเกี่ยวกับการทำงาน VFX ให้ Avatar นั่นก็คือ การเป็นแผนกหลักเพียงแผนกเดียวที่ไม่ได้รวมกลุ่มกันเลย แล้วปล่อยให้ James Cameron ใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงนั้นด้วยการแก้ไขอย่างไม่รู้จบแบบที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน และก็ชนะรางวัลออสการ์อย่างมากมาย  ผมไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะสตูดิโอที่ผมทำงานด้วยนั้น ไม่มีอยู่อีกแล้ว เดาสิว่าทำไม เอกสารสุดอัศจรรย์พวกนั้นน่าทึ่งมาก แต่ความยืดเยื้อที่พวกเขาทำนั่นทำนี่ในตอนสุดท้าย คือการรวมตัวกันของการจัดการวงจรข้อมูลแบบยุค 90’s จากนั้นเราก็ถูกคุกคามอย่างเป็นระบบด้วยเอาต์ซอร์ซจนกว่าการร่วมกลุ่มของเราจะสลายไป”

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สมัยใหม่นั้น ต่างก็มีการใช้ VFX มาช่วยสร้างความตระการตากันมากขึ้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรังสรรค์สิ่งเหล่านั้นออกมา การบีบคั้นให้มันออกมาตามต้องการจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง และวัฒนธรรมการสั่งงานเช่นนี้ก็ยังคงมีให้เห็นกันอยู่ อย่างก่อนหน้านี้ Marvel ก็เคยถูกทีมงาน VFX มาแฉในทำนองนี้เช่นกัน

สนับสนุนข้อมูลโดย ข่าวหน้งใหม่

“Confidential Assignment 2” อัดแน่นซูเปอร์สตาร์-โปรดักชั่นมหึมาแห่งปี!

เตรียมจุดระเบิดความมันส์ ไปกับทีมจารชนสายแกร่งแฝงความฮาแห่งเกาหลี ใน “Confidential Assignment 2: International จารชนโอปป้า รั่วส์ข้ามโลก” ภาพยนตร์แอ็กชัน-คอเมดี้ ที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุก และความตื่นเต้นกับภารกิจลับระดับชาติ ส่งตรงแก่แฟนชาวไทยให้ร่วมมันส์จนลืมหายใจ หลังกวาดรายได้อันดับ 1 และกระแสรีวิวเยี่ยมจากบ้านเกิดมาอย่างงดงาม ตอกย้ำความเป็นโปรเจกต์ยักษ์ที่ได้ทีมงาน และนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ชั้นแนวหน้าของเกาหลี ทั้ง ฮยอนบิน, ยูแฮจิน, อิมยุนอา และ แดเนียล เฮนนีย์ แท็กทีมมาร่วมสร้างความพิเศษให้ภาพยนตร์จนได้รับเสียงชื่นชมว่า ทั้งเดือด ฮา มันส์ อย่างลงตัว

เราจะมาเปิด 7 โผคนมีของสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ทำให้ Confidential Assignment 2: International กลายเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งในใจของหลายคน ต้อนรับโอปป้าสหายผู้กอง “ฮยอนบิน” ที่คัมแบ็กเล่นภาพยนตร์ในรอบ 4 ปี มาครั้งนี้ เขารับบท จารชนเกาหลีเหนือสุดเท่ที่ต้องมาลุยภารกิจตามล่าเจ้าพ่ออาชญากรตัวแสบในเกาหลีใต้

นางเอก “อิมยุนอา” สมาชิก Girls’ Generation ที่ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงฝีมือปังเต็มตัว เธอจะมาอัปความน่ารักแบบรั่วมากแม่ ในบท YouTuber สาวที่เข้ามาปั่นหัวใจเหล่าจารชน เผยโฉมหน้าหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน ที่จะมาขอท้าชนทั้งเรื่องความหล่อและเรื่องเลิฟสตอรี่ “แดเนียล เฮนนีย์” ในบท FBI จากอเมริกา ที่มาแท็กทีมภารกิจรั่วข้ามโลก

ฮาลั่นโรง ต้องยกให้เขาคนนี้ “ยูแฮจิน” คิง ออฟ คอเมดี้ ของวงการบันเทิงเกาหลี ในบทสายลับเกาหลีใต้ คู่หู ฮยอนบิน เรื่องต่อสู้อาจจะไม่ปัง แต่เรื่องทำ(แผน)พังต้องยกให้เขาคนนี้! ผู้กำกับ “อีซอกฮุน” จัดหนักสร้างย่านโซโหในนิวยอร์กขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แถมยังเสกถนน 4 เลนเต็ม ๆ มาเพื่อใช้ถ่ายทำฉากซิ่งไล่ล่าโดยเฉพาะ

ระดับจารชนโอปป้า อาวุธจะมีแค่ระเบิดหรือกระสุนมันน้อยไป ต้องเจอ secret weapon ใหม่ล่าสุดอย่าง “ไม้ปัดแมลงวันสังหาร” ที่จะมากับแอ็กชันการ Kill ที่จะทำให้ทุกคนได้ทึ่งโดยฝีมือดีไซเนอร์คิวบู๊ งานนี้ฟีเวอร์กันวันต่อวัน เปิดตัวอันดับ 1 ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายในเกาหลีใต้ ล่าสุดทำลายสถิติยอดผู้ชมทะลุ 5 ล้านใบจนแรงแซง Top Gun: Maverick ไปเรียบร้อย “Confidential Assignment 2: International” 13 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์