Friday, September 30, 2022

HBO ฉลองครบรอบ 50 ปี พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Fifty Years of Firsts”

HBO เปิดตัวแคมเปญ “Fifty Years of Firsts” เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ HBO ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา HBO เป็นผู้บุกเบิก เปลี่ยนแปลง และยกระดับอุตสาหกรรมทีวีทั้งในรูปแบบภาพยนตร์ สารคดี ละคร คอเมดี้ ข่าวสาร และกีฬา ด้วยผลงานการเล่าเรื่องที่การันตีด้วยรางวัลมากมาย ตัวละครและเรื่องราวอันน่าประทับใจของ HBO ได้ออกมาโลดแล่นบนหน้าจอ และยังเป็นที่กล่าวขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ “Fifty Years of Firsts” จึงนับว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้กับตำนานที่สร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมของเครือข่ายพรีเมียมอย่าง HBO พร้อมกับเผยคอนเทนต์ในอนาคตที่กำลังจะมาถึง

“ตำนานของ HBO คือการได้เป็นหนึ่งในผู้บอกเล่าเรื่องราวที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ Fifty Years of Firsts จึงเป็นการเฉลิมฉลองผลงานของนักสร้างสรรค์ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกันยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงให้แก่วงการ และทำให้เราได้มองเห็นภาพอนาคตของอุตสาหกรรมบันเทิงซึ่งบุคลากรคนสำคัญเหล่านี้จะยังคงมุ่งมั่นผลิตผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไปในอนาคต” เคซีย์ บลอยส์ (Casey Bloys) หัวหน้าฝ่ายเนื้อหาของ HBO และ HBO Max กล่าว “พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้หวนระลึกถึงช่วงเวลาเหล่านี้ร่วมกับแฟนๆ และแสดงความนับถือต่อบรรดานักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมของเรา”

ในช่วง 50 วันก่อนถึงวันครบรอบ HBO จะปล่อยตัวอย่างสุดพิเศษจากคอนเทนต์ออริจินัลของ HBO อาทิ เทรลเลอร์แรก ภาพของนักแสดง ภาพเบื้องหลังการทำงาน รวมถึงฟุตเทจที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน โดยจะเริ่มต้นแคมเปญด้วยการเผยคลิปวิดีโอสุดพิเศษของซีรีส์ House of the Dragon ตอนที่หก ก่อนที่ซีรีส์จะออกอากาศในวันที่ 26 กันยายน นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์พิเศษจากออริจินัลซีรีส์เรื่องใหม่ของ HBO อาทิ The Last of Us, Winning Time: The Rise of the Lakers Dynasty ซีซั่นสอง, We’re Here ซีซั่นสาม, The White Lotus ซีซั่นสอง, The Righteous Gemstones ซีซั่นสาม, Succession ซีซั่นสี่ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย

ยิ่งไปกว่านั้น โซเชียลมีเดียของ HBO จะใช้แฮชแท็ก #HBO50 เพื่อย้อนรำลึกถึงรายการ ฉาก และตัวละครที่น่าจดจำของแบรนด์ โดยกิจกรรมผ่านโซเชียลจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ด้วย HBOwards ที่จะแสดงรางวัลอันทรงเกียรติที่เป็น ‘ที่สุด’ ของ HBO ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา

Wednesday, September 28, 2022

Ryan Reynolds ประกาศการกลับมาสวมกรงเล็บของ Hugh Jackman ใน Deadpool 3

เป็นที่รู้กันดีว่า Ryan Reynolds นั้นสนิทสนมกับ Hugh Jackman มากเพียงใด พวกเขาหยอกล้อกันผ่านโซเชี่ยลอยู่เสมอๆ นั่นทำให้แฟนๆแอบมีความหวังกันมาสักพักใหญ่ๆเรื่องที่จะได้เห็น Hugh Jackman กลับมารับบท Wolverine อีกครั้งใน Deadpool 3 หลังจากที่เขาได้ประกาศวางมือไป และ Marvel กำลังเฟ้นหาผู้ที่จะมารับบทนี้ใหม่

ล่าสุด Ryan Reynolds ได้ใช้ Twitter แถลงการณ์เป็นคลิปแบบเกรียนๆในสไตล์เขา ซึ่งในช่วงต้นของคลิปเขาได้บอกถึงการทำงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาในภาค 3 ในคลิปเผยให้เราเห็นว่า Ryan Reynolds ค่อนข้างสิ้นหวัง เขาเดินเล่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยในป่า เขายอมรับว่าการเปิดตัว MCU ของ The Merc With A Mouth จำเป็นต้อง "รู้สึกพิเศษ" ก่อนที่จะยอมรับว่าเขาไม่สามารถคิดอะไรได้

The Merc With A Mouth คืออีกฉายาของ Deadpool ที่แปลเป็นไทยได้ว่า พวกผีเจาะปาก นั่นเอง หลังจากทำให้คนดูสิ้นหวังตามไปด้วยในคลิป ก็ได้ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งที่เราคุ้นเคยกันดีเดินมาด้านหลัง เขาเหมือนจะเป็น Hugh Jackman นั่นเอง เขาเดินผ่านๆแบบไม่สนใจอะไรเพื่อขึ้นบันไดไปชั้นบน Ryan Reynolds จึงได้เอ่ยถามไปว่า " เฮ้!! Hugh นายสนใจจะมาเล่นเป็น Wolverine อีกครั้งมั้ย " Hugh Jackman ตอบแบบไม่ลังเลว่า " เย้!! แน่นอน Ryan " นั่นแหละ จากความสิ้นหวังกลายเป็นโซเชี่ยลมีเดียแตกทันที มีคนมากมายที่เข้ามารีทวีตยินดี ไม่เว้นแม้แต่ตัว Hugh Jackman เอง หรือผู้กำกับภาคนี้อย่าง Shawn Levy ก็รีทวีตนี้ด้วย

เรามิอาจคาดเดาได้ว่า Hugh Jackman จะกลับมาแบบเต็มๆหรือแค่รับเชิญ อนาคตของเขาใน MCU มันแตกต่างจากเมื่อก่อน เพราะหากเขาเข้ามารับบท Wolverine แบบเต็มๆอีกครั้ง นั่นแปลว่าเขาจะต้องปรากฏตัวในหนังของ Marvel ต่อไปอีก เพราะ Deadpool ได้เข้าสู่ MCU แล้ว เรามารอลุ้นกัน หนังวางกำหนดวันฉายที่ 6 กันยายน 2024

Monday, September 26, 2022

The Woman King ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของปีที่ทำคะแนน CinemaScore ได้ในระดับ A+

The Woman King ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ Agojie หน่วยรบหญิงล้วนชาวแอฟริกันที่ปกป้องอาณาจักรดาโฮมีย์ในศตวรรษที่ 18 จากการรุกรานของชมเผ่าที่จับคนดำแอฟริกันไปค้าทาสให้กับชาวยุโรป สามารถทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปได้ถึง 19 ล้านดอลลาร์ และยัง ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของปีถัดจาก Top Gun: Marverick ที่ทำคะแนน CinemaScore ได้ในระดับ A+ 

ภาพยนตร์นั้นแสดงนำโดย Viola Davis (Amanda Waller ใน Suicide Squad) และสมทบโดยนักแสดงมากความสามารถดังนี้ Thuso Mbedu, Lashana Lynch, Sheila Atim, John Boyega ภาพยนตร์ได้รับการกำกับโดย Gina Prince-Bythewood ซึ่งนอกจากจะเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของปีถัดจาก Top Gun: Marverick ที่ทำคะแนน CinemaScore ได้ในระดับ A+ แล้ว มันก็ถือเป็นภาพยนตร์จากผู้กำกับสาวผิวดำที่ทำรายได้เปิดตัวได้สูงเป็นอันดับที่สองอีกด้วย เป็นรองแค่เรื่อง Candyman 2021 (Nia DaCosta) ที่ทำรายได้เปิดตัวไว้ที่ 22 ล้านดอลลาร์ 

นี่นับเป็นภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวในประวัติศาสตร์คนดำแอฟริกันมาถ่ายทอดได้อย่างดีเยี่ยม เชิดชูความแข็งแกร่งของวีรสตรีได้อย่างสมศักดิ์ศรี และยังเป็นที่ยอมรับของผู้คน ควรค่าจะเป็นมาตรฐานของภาพยนตร์ในอนาคต

สนับสนุนข้อมูลโดย ดูหนังใหม่

Thursday, September 22, 2022

Iron Man เคยถูกปฎิเสธที่จะสร้างหนัง เพราะฮีโร่คนนี้ดูหนักเกินไปที่จะบินได้

New Line Cinema ค่ายหนังที่เคยได้สิทธิ์การทำหนังเรื่อง Blade ถึง 3 ภาค จาก Marvel พวกเขาเคยได้สิทธิ์ที่ทำภาพยนตร์จากเรื่องราวฮีโร่คนสำคัญอย่าง Iron Man ด้วย แต่วิสัยทัศน์ของผู้นำของค่ายในตอนนั้นมองว่า ฮีโร่คนนี้ดูไม่สมเหตุสมผลและหนักเกินไปที่จะบินได้ นั่นเลยทำให้ Marvel ต้องเอามันไปทำภาพยนตร์เสียเอง

The Hollywood Reporter ได้รายงานเรื่องราววงในของธุรกิจภาพยนตร์ฮีโร่ ซึ่งในรายงานนี้เองก็ทำให้เราได้ทราบว่า New Line Cinema ปฏิเสธที่จะสร้างหนังของ Iron Man โดยแหล่งข่าวได้เผยว่า Bob Shaye หัวหน้าของ New Line ในขณะนั้น ได้ปล่อยโอกาสการสร้างหนังของ Iron Man ให้หลุดลอยไป และมีการถกเถียงกันว่ามันไม่สมเหตุสมผลที่จะสร้างภาพยนตร์ฮีโร่คนนี้เพราะ “Iron Man หนักเกินกว่าจะบินได้”

อย่างที่เราได้ทราบกันดีในปัจจุบันว่า สุดท้ายทาง Marvel ก็เอา Iron Man มาทำภาพยนตร์ และเปิดจักรวาล MCU ด้วยตัวเอง ซึ่งฮีโร่คนนี้ก็สามารถโบยบินได้อย่างน่าตื่นตา และยังเป็นฮีโร่คนสำคัญที่ช่วยทะยานให้ Marvel เป็นที่รู้จักมากขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมันคงทำให้ทาง New Line Cinema รู้สึกเสียดายโอกาสครั้งนั้นไปไม่ใช่น้อย

Tuesday, September 20, 2022

Amazon อนุมัติการสร้างซีรีส์ Blade Runner 2099 ภาคต่อแฟรนไชส์หนังดัง

Amazon Studio ได้มีการอนุมัติให้มีการสร้างซีรีส์คนแสดงที่อยู่ในจักรวาลหนัง Blade Runner ซึ่งมันจะใช้ชื่อเรื่องว่า Blade Runner 2099 

ซีรีส์ตัวนี้ถือเป็นภาคต่อของแฟรนไชส์ที่ เล่าเรื่องราวหลังจากภาพยนตร์ Blade Runner 2049 ใน 50 ปีถัดมา โดยมันจะได้ Ridley Scott ผู้กำกับภาพยนตร์ Blade Runner ภาคแรกเมื่อปี 1982 มาดูแลการสร้างในตำแหน่ง Executive Producing ตัวบทเรื่องราวของภาพยนตร์จะถูกเขียนโดย Silka Luisa ผู้มีส่วนสร้างซีรีส์เรื่อง Shining Girls 

Blade Runner 2099 จะเป็นซีรีส์ที่จัดลำดับความสำคัญไว้ในอันดับต้นของทาง Amazon Studio ซึ่งเราจะได้ชมกันแบบสตรีมมิงบน Prime Video แน่นอน

Saturday, September 17, 2022

The Strangers จะถูกสร้างใหม่เป็นไตรภาค โดยผู้กำกับมือเก๋าแห่ง Die Hard 2 และ Cliffhanger

เป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าผู้กำกับที่มารับหน้าที่ Reboot หนังฮิตปี 2008 อย่าง The Strangers จะเป็นผู้กำกับที่แทบจะตกยุคไปแล้วอย่าง Renny Harlin ที่เคยมีงานลุ้นระทึกยุค 90 อย่าง Die Hard 2 และ Cliffhanger แต่งานยุคหลังๆของเขาส่วนใหญ่แทบจะเป็นหนังเกรด B หรือไม่ก็หนังทุนจีน

แต่การมากุมบังเหียนกำกับ The Strangers ฉบับใหม่ ที่วางแผนไว้ยาวๆว่าจะเป็นหนังไตรภาค ถือเป็นความเซอร์ไพรส์ได้เลยเหมือนกัน เพราะหากให้พูดกันตามตรง หนังแบบนี้ส่วนใหญ่มักใช้ผู้กำกับไฟแรงที่ล้นด้วยไอเดีย แต่สำหรับ Renny Harlin จะเรียกได้ว่าเขากำลังเรียกศรัทธาจากแฟนหนังของเขากลับมาอีกครั้ง

สตูดิโออย่าง Lionsgate ก็ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามั่นใจให้ Renny Harlin กำกับในโปรเจ็กต์นี้ โดยจะสร้างจากบทหนังของสองผู้เขียนบท Alan R. Cohen และ Alan Freedland ซึ่งงานนี้ Renny Harlin ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า

“ แม่ของผมปลูกฝังความรักในการชมภาพยนตร์ในตัวผมผ่านโลกของ Hitchcock และปรมาจารย์ด้านความสยองขวัญคนอื่นๆ ความก้าวหน้าของผมสู่ระดับฮอลลีวูดเกิดขึ้นพร้อมกับความสำเร็จของ A Nightmare On Elm Street 4 ... เป็นการเหมาะสมที่ผมจะกลับไปสู่แนวที่ผมชอบ ด้วยไตรภาคที่เขียนมาอย่างดีอย่างเหลือเชื่อ...โครงเรื่องล้วนมีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง และมอบภาพเสมือนจริงที่หลอกหลอนผมไม่รู้จบในการทำให้หนังเหล่านี้มีชีวิต ”

แฟนๆหนังยุค 90 จะรู้จัก Renny Harlin ดีในฐานะคนทำหนังแอ็คชั่น แต่หากเพ่งดูดีๆจะพบว่างานของเขามีระดับความลุ้นระทึกเข้มข้นมาก และเขาแจ้งเกิดมาจากหนังสยองขวัญในตำนานอย่าง A Nightmare on Elm Street 4: The Dream Master ที่เป็นงานกำกับหนังสตูดิโอใหญ่เรื่องแรกของเขา จนนำพาให้เขาก้าวมาสู่คนทำหนังที่ทรงอิทธิพลในยุค 90 เขายังเล่าต่ออีกว่า

“ เมื่อวางแผนจะสร้าง The Strangers ขึ้นมาใหม่ เรารู้สึกว่ายังมีเรื่องราวที่ใหญ่กว่าให้เล่า ซึ่งอาจทรงพลัง เยือกเย็น และน่าสะพรึงกลัวเหมือนต้นฉบับ และสามารถขยายโลกนั้นได้จริงๆ ” เบื้องต้น หนังฉบับยกเครื่องใหม่จะได้นักแสดงอย่าง Madelaine Petsch , Froy Gutierrez และ Gabriel Basso หนังจะเริ่มต้นถ่ายทำในเร็วๆนี้ แต่ยังไม่มีกำหนดฉายที่แน่นอน

Thursday, September 15, 2022

แม่โมโหที่ลูกสาวเก็บของเล่นเกี่ยวกับ Scarlet Witch ไว้ในบ้าน เพราะเธอคือตัวร้าย

เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินควบคุมจริงๆสำหรับการกลายเป็นตัวร้ายของ Scarlet Witch ในหนัง Marvel เพราะมีผู้ใช้โซเชี่ยล Reddit คนหนึ่งออกมาระบายความในใจถึงเรื่องที่ภรรยาเก่าของเขา ออกอาการปรี๊ดแตกที่เขายอมให้ลูกๆเก็บของเล่นสะสมที่เกี่ยวกับ Scarlet Witch ไว้ในบ้าน โดยให้เหตุผลว่า เธอเป็นนางมารร้าย ไม่ใช่คนดีอีกต่อไป

ใน Forum หนึ่งจากเว็บ Reddit ที่ใช้ชื่อหัวข้อว่า "Am I The Asshole" มีคนมาเปิดเผยว่า อดีตภรรยาของเขาโกรธที่เขายอมให้ลูกสาวของพวกเขาเก็บสินค้าของเล่นสะสมที่เกี่ยวกับ Wanda Maximoff ไว้ หลังจากที่ Wanda Maximoff ถูกเปิดเผยว่าเป็นคนร้ายในจักรวาล Marvel

“ เมื่อลูกๆของเราโตขึ้น ภรรยาของผมมีกฎเกณฑ์มากมายว่าเธอจะปล่อยสื่ออะไรเข้าบ้าน สิ่งสำคัญคือเธอไม่ต้องการของเล่นหรือสิ่งของของคนร้าย ทุกครั้งที่ลูกชายของเรามี Darth Vader หรือ Joker หรือของเล่นอะไรก็ตามสำหรับวันเกิดหรือคริสต์มาส เธอจะโยนมันออกไปและสอนลูกชายของเรา ก่อนที่เธอจะทดแทนด้วยบางสิ่งที่ 'ยอมรับได้' นี่เป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ นำไปสู่การหย่าร้างของเรา และมีส่วนทำให้ลูกสองคนของเราอาศัยอยู่กับผมเป็นส่วนใหญ่ (พวกเขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ต่อเดือนกับภรรยาเก่าของผม)"

นั่นสื่อให้เห็นว่าความซีเรียสจริงจังของอดีตภรรยา เรื่องของสะสมหรือของเล่นของลูกๆ ทำให้พวกเขามีปัญหาถึงขั้นหย่าร้างกัน และลูกๆต้องอยู่กับผู้เป็นพ่อ เขาบอกอีกว่าหลังจาก Avengers: Age of Ultron ลูกสาวของพวกเขาได้กลายเป็นแฟนตัวยงของ Wanda Maximoff ใน MCU จากนั้นเธอก็เริ่มสะสมของที่ระลึกของ Wanda ไว้มากมาย

แต่หลังจากที่อดีตภรรยาของเขาได้ดูหนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness และเมื่อ Wanda กลายเป็น "นางร้าย" เธอจึงต้องการให้เอาของสะสมของลูกสาวออกไปจากบ้าน และเมื่อเธอเห็นในโซเชียลมีเดียของลูกสาว แล้วพบว่าลูกสาวเธอยังคงมีของสะสมเกี่ยวกับ Wanda อยู่ เขาอธิบายว่า “ภรรยาเก่าของผมปรี๊ดแตกใส่ผมทางโทรศัพท์ ,ข้อความ ,อีเมล พยายามไซโคเพื่อนและครอบครัวของเธอกับผม ... นี่มันรบกวนเธอมาก... แต่ผมไม่เคยขอให้ Sara ลูกสาวเราทิ้งหรือกำจัดอะไรเลย ผมก็แอบกังวลเล็กน้อยว่าการปล่อยไว้แบบนี้ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของภรรยาเก่าของผม หรือกำลังทำให้ลูกๆมีช่วงเวลาที่เลวร้ายในพื้นที่ของเขา "

แต่เขาก็เลือกที่จะถนอมหัวใจลูกๆมากกว่า จึงทำให้อดีตเมียปรี๊ดแตกใส่เขาอย่างที่เห็น เขายังบอกอีกว่า
“ เธอไม่ชอบคนร้ายเพราะเธอคิดว่ามันมีอิทธิพล พูดได้ว่าฟิกเกอร์แอคชั่นของ Darth Vader สอนเด็กๆว่า Darth Vader เท่และเด็กๆจะชอบแล้วเลียนแบบ คนร้ายส่งผลถึงลักษณะนิสัยที่ไม่ดี เช่น หากคุณรวบรวมสิ่งของเกี่ยวกับ Darth Vader มากกว่า Luke Skywalker แสดงว่าคุณกำลังประกาศตัวเองว่าโปรจักรวรรดิ/ฟาสซิสต์ "


Tuesday, September 13, 2022

Thor: Love and Thunder เคยเกือบมี "พระเยซู" มาเป็นหนึ่งในทวยเทพ

Thor: Love and Thunder ภาพยนตร์ฮีโร่เรื่องล่าสุดของจักรวาล Marvel ที่ทำให้เราได้เห็นเรื่องราวการตามล่าฆ่าล้างเหล่าทวยเทพ โดย Gorr The God Butcher(Christian Bale) ซึ่งในฐานะที่เทพเจ้าฮีโร่ Thor(Chris Hemsworth) ก็เป็นหนึ่งในเทพแห่งตำนานนอร์ส มันเลยทำให้เขาต้องมาเผชิญหน้ากอบกู้สถานการณ์นี้ โดยในเรื่องมันก็มีทั้ง Zeus (Russell Crowe) เทพเจ้าสูงสุดของตำนานกรีก หรือมีแม้กระทั่ง Bastet เทพในจักรวาล Black Panther ด้วย แต่รู้หรือไม่นอกจากเหล่าเทพตามตำนานปรัมปราและเรื่องแต่งเหล่านี้แล้ว ทางผู้กำกับหนังเคยคิดที่จะเอาพระเจ้าจากศาสนามาปรากฏกายในเรื่องนี้ด้วย

Taika Waititi ผู้กำกับ Thor: Love and Thunder ได้เผยในการให้สัมภาษณ์กับรายการ BBC Radio 1 ว่า Jesus Christ หรือ พระเยซู เกือบจะมาปรากฏในเรื่องราวนี้ด้วยแล้ว “มันเกือบจะมีจุดที่ทำให้คุณได้เห็นคนที่คุณก็รู้ว่าใครอย่าง Big J แล้ว” Taika Waititi กล่าว

ดูเหมือนเทพรับเชิญองค์นี้จะถูกโหวตคัดค้านการปรากฏตัวไป เพราะมันละเมิดความเชื่อทางศาสนามากเกินไปที่จะเอามาล้อเล่นภายในหนัง แม้มันอาจจะสร้างเสียงหัวเราะได้ก็จริง แต่ในอีกมุมหนึ่งมันก็อาจกลายเป็นการลบหลู่ความเชื่อของผู้คนที่สัทธาได้ด้วยเช่นกัน แม้ Thor: Love and Thunder จะเป็นภาพยนตร์แนวตลกเฮฮา แต่ทางผู้สร้างก็ยังให้ความใส่ใจและเคารพในเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลอยู่ 

Saturday, September 10, 2022

The Crown S4: หญิงเหล็ก และลูกแกะในถ้ำสิงโต โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ The Crown Season 4 ล่าสุดที่เพิ่งออกฉายใน Netflix ยังคงเป็นเพชรยอดมงกุฎในบรรดาซีรีส์ประเภทดราม่า/ประวัติศาสตร์ ที่ทั้งหนักแน่น สง่างาม ลึกซึ้ง สะเทือนใจ ชาญฉลาดในการสร้างเรื่องจากเหตุการณ์จริงของโลก โดยทั้งหมดอ้างอิงผ่านราชวงศ์วินด์เซอร์ของอังกฤษ ตระกูลเก่าแก่ทรงอำนาจที่ถูกท้าทายด้วยสภาวะสังคมและการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ข่าวสารภาพยนตร์

ในบรรดาเหตุผลมากมายที่ทำให้ The Crown ซีซั่นใหม่น่าดูยิ่ง และอาจเรียกได้ว่าเป็นซีซั่นที่ดีที่สุด สำหรับผู้เขียนแล้วมาจากการที่ซีซั่นนี้เพิ่มและขับเน้นตัวละครผู้หญิงให้เกิดพลวัตทางอารมณ์และอุดมการณ์ยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเอก ควีนอลิซาเบธ หรือ “กัปตันทีมวินเซอร์” (แสดงโดยโอลิเวียร์ โคลแมน) จะเป็นตัวเดินเรื่องหลักมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ในซีซั่นใหม่นี้มีตัวละครหญิงสำคัญเพิ่มมาอีกสองคน คือมากาเร็ต แธตเชอร์ (แสดงโดยกิลเลียน แอนเดอร์สัน) และเจ้าหญิงไดอาน่า (เอมม่า คอร์ริน) สามหญิง สามตำแหน่ง สามความเชื่อ นี่เป็นโครงเรื่องหลักที่วางพาดทั้ง 10 ตอนในซีรีส์นี้ ความสัมพันธ์อันวุ่นวายซับซ้อนระหว่างทั้งสามคน สามชีวิตที่ต่างมีฉากสำคัญแบบลืมไม่ลงของตัวเองในประวัติศาสตร์อังกฤษ (หรือประวัติศาสตร์โลกด้วยซ้ำ) ทำให้ซีซั่นใหม่นี้ดู “ร่วมสมัย” และยึดโยงกับความทรงจำของคนดูจำนวนไม่น้อยที่โตมาพร้อมกับการเห็นนางแธตเชอร์ และเจ้าหญิงไดอาน่า ในข่าวต่างประเทศในโทรทัศน์อยู่นานนับสิบปี

เริ่มที่แธตเชอร์ก่อน นายกหญิงเหล็กของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ โด่งดังและอื้อฉาวด้วยนโยบายรัดเข็มขัดและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แธตเชอร์ครองอำนาจยาวนานตั้งแต่ปี 1979 ถึง 1990 และเป็นนายกที่มีคนเกลียดมากที่สุดคนหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ คือเกลียดแบบสาปส่ง ด่าทอ เห็นเป็นแม่มด เป็นนางมารที่จ้องทำลายชีวิตคนยากจนและคนหาเช้ากินค่ำในอังกฤษ บทของ The Crown ทำสิ่งที่เคยทำมาแล้วกับตัวละครอื่นๆ ในซีรี่ส์ คือการ humanize หรือ “หาความเป็นมนุษย์” ให้กับบุคคลที่มักจะถูกมองในแบบขาว-ดำ ไม่ใช่นะครับ หนังไม่ได้ “อวย” แธตเชอร์ หรือพยายามแก้ตัวให้เธอ แต่ทำให้เห็นว่าแรงผลักดันของเธอมาจากไหน ชีวิตของเธอผ่านอะไรมาบ้าง เธอมีปมเรื่องอะไร และอะไรทำให้เธอต้องแกร่งขนาดนั้น แน่นอนว่าความโหดของแธตเชอร์ ยังไงก็เป็นความโหด โลกทัศน์ที่วางอยู่บนความเชื่อในการทำงานหนักโดยไม่สนใจระบบอันไม่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่นักรัฐศาสตร์ลงความเห็นว่าช่างคับแคบและใจร้าย แต่ในขณะเดียวกัน หนังแสดงให้เห็นว่าเธอต้องต่อกรกับอะไรบ้าง ทั้งโลกการเมืองที่มีแต่ผู้ชายใส่สูทที่จ้องจับผิด หรือกับควีนอลิซาเบธและวงศ์วานของเธอ กับความหยิ่งยโส สายตาดูถูกเหยียดหยามของราชวงศ์ และการต้องพิสูจน์ตัวเองกับทุกคนตลอดเวลา

ช่วงต้นของซีรีส์ที่เราเพิ่งเห็นไดอาน่า เห็นความไร้เดียงสาของเธอและเห็นเธอถูก “ทดสอบ” โดยบรรดาพระญาติ สำหรับผู้เขียนแล้วมันเกือบจะเป็นหนังสยองขวัญ เพราะเธอเป็นเหยื่อของความโหดร้ายทารุณที่ผู้สูงศักดิ์ประเคนให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่นับว่าเรา “รู้ล่วงหน้า” ว่าชีวิตของเธอจะขมขื่นเพียงไหนและจะพบจุดจบอย่างไร การมองย้อนไปในประวัติศาสตร์ที่เรารู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว จึงน่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง

ผู้หญิงสามคนใน The Crown ทำให้ซีซั่นใหม่นี้มีอะไรให้พูดถึงมากจริงๆ ยังไม่ไปถึงเรื่องการเมืองและเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อื่นๆ แล้วเราอาจจะมาต่อกันในคอลัมน์หน้าอีกครั้ง

Thursday, September 8, 2022

Chris Rock ทำให้ผู้คนได้รู้ว่า Will Smith แสร้งทำเป็นคนดีมา 30 ปี และเขาก็น่าเกลียดไม่ต่างจากใครๆ

ในการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนร่วมกันระหว่าง Chris Rock กับ Dave Chappelle ในประเทศอังกฤษ มันก็ทำให้ Chris Rock ได้เผยความรู้สึกที่อัดอั้นต่อ Will Smith ครั้งแรก หลังจากที่เขาโดนตบหน้ากลางเวทีออสการ์

โดยทาง Dave Chappelle ก็เริ่มเปิดประเด็นเรื่อง Chris Rock กับ Will Smith นี้ กลางการแสดงเลย โดยได้ถามไปว่า “ตอนนั้นมันเจ็บไหมวะ?” Chris Rock ก็ตอบกลับมาว่า “เออโคตรเจ็บเลยว่ะ… ไอ้แม่ย้อยนั่นตบฉันเพราะมุกตลกไร้สาระ ซึ่งเป็นมุกที่อ่อนโยนที่สุดที่ฉันเคยเล่นมาเลย”

Dave Chappelle กล่าวถึงเรื่องที่ Will Smith ขึ้นไปตบหน้า Chris Rock ว่า "มันเป็นทางเลือกที่แปลกมาก" เขากล่าวว่า Rock เป็นตัวของตัวเองมาตลอด ในขณะที่เพื่อนเก่าอย่าง Smith แสร้งทำตัวเป็นคนดีสมบูรณ์แบบมา 30 ปี

“Will แสร้งทำตัวเป็นคนที่สมบูรณ์แบบมา 30 ปีแล้ว และเมื่อเขาถอดหน้ากากออก มันก็แสดงให้เราเห็นว่าเขาน่าเกลียดไม่ต่างจากใครๆเลย ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเช่นไร . . ผมหวังว่าเขาจะไม่สวมหน้ากากนั่นอีกครั้ง และปล่อยให้ใบหน้าที่แท้จริงนี้ ได้หายใจสะดวกขึ้นหน่อย”

นอกจากนี้ Chris Rock ยังได้กล่าวถึงวีดีโอขอโทษของ Will Smith ที่ได้เผยแพร่ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า “ช่างแม่ง วีดีโอตัวประกันของเอ็งนั่นสิวะ” แล้วยังเล่นมุกล้อหนังนักมวยไว้ว่า “เออ มันเจ็บเว้ย เขาได้เล่นเป็นถึง Ali ส่วนฉันไม่ได้เล่นแม้แต่บท Floyd Mayweather”

หลังจากเหตุการณ์ตบหน้ากลางเวทีออสการ์ ปัจจุบัน Chris Rock ก็เดินสายทัวร์เดี่ยวไมโครโฟนอยู่ในอังกฤษ แล้วจะไปจบทัวร์นี้ในอเมริกาในเดือนกันยายนนี้ ส่วนทาง Will Smith ก็ถูกลงโทษห้ามร่วมงานออสการ์ไป 10 ปี โปรเจ็กต์หนังหลายๆเรื่องก็ถูกพับ และเขาใช้เวลานี้ในการสงบสติอารมณ์ และขอโทษในเรื่องที่ผ่านมา

Tuesday, September 6, 2022

Brendan Fraser ร้องไห้ท่ามกลางเสียงปรบมือกว่า 6 นาที ในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส

เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างสุดซึ้งที่เราได้เห็นการกลับมาสู่การเป็นนักแสดงคุณภาพอีกครั้งของ Brendan Fraser อดีตพระเอก The Mummy ที่ก่อนหน้านี้เขาประสบปัญหามากมายจนห่างหายจากหน้าจอหนังกระแสหลักไป ข่าวสารภาพยนตร์ 

จนกระทั่งเขาได้รับบทเป็นชายป่วยเป็นโรคอ้วนที่มีน้ำหนัก 600 ปอนด์ ผู้ซึ่งทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ติดต่อกับลูกสาววัย 17 ปีของเขาอีกครั้ง ในหนังเรื่อง The Whale ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับมือรางวัลอย่าง Darren Aronofsky จากหนัง The Wrestler และ Black Swan

ล่าสุดมีคลิปจากงาน Venice International Film Festival หรือ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส 2022 ซึ่งมีการฉายรอบปฐมทัศน์โลกอย่างเป็นทางการ หลังจากหนังจบ ผู้คนในงานได้ยืนปรบมือให้หนัง The Whale และการแสดงของ Brendan Fraser กันอย่างกึกก้องเป็นเวลาร่วม 6 นาที นั่นทำให้ Brendan Fraser ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาท่ามกลางผู้คนที่ร่วมชื่นชมยินดีกับเขาครั้งนี้

ก่อนหน้านี้เขาได้รับเกียรติขึ้นรับรางวัล TIFF Tribute Award ในงาน Toronto International Film Festival 2022 มาก่อนหน้านี้ จากการได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้น นั่นทำให้เขาอาจมีสิทธิ์ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscars ในปี 2023 ซึ่งถือเป็นการสะสางปมในอดีต และเดินก้าวต่อไปในฐานะนักแสดงคุณภาพ แฟนๆเองต่างก็ยินดีกับเขา แม้ว่างานแสดงในยุคแรกๆมักจะเป็นหนังแอ็คชั่น แฟนตาซี ตลก เสียส่วนใหญ่ แต่การกลับมาของเขาครั้งนี้ตอกย้ำว่าเขาคือนักแสดงที่สามารถรับบทบาทได้หลากหลายคนหนึ่งในโลกภาพยนตร์

Brendan Fraser ยังมีผลงาน Killers of the Flower Moon ที่กำกับโดยบรมครูอย่าง Martin Scorsese และเขายังรับบทเป็น Garfield Lynns หรือ Firefly ในหนังฮีโร่ DC อย่าง Batgirl (ก่อนจะถูกยกเลิกงานสร้างไป) ซึ่งความดีความชอบนี้ส่วนหนึ่งเพราะเขาดูโดดเด่นมากในซีรีส์ฮีโร่สุดฮาอย่าง Doom Patrol ที่ทำให้อดีตพระเอกใน The Mummy กลับมาอยู่ในหนังกระแสหลักอีกครั้ง

Saturday, September 3, 2022

ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ ได้รับบทใน "Avatar: The Way of Water" ที่แตกต่างจากภาคแรกสิ้นเชิง

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ จากการเป็นราชินีหนังเอเลี่ยนสุดแกร่งจากเฟรนไชส์ Alien ไม่เพียงเท่านั้น ในภาพยนตร์เรื่อง Avatar เอง เธอก็รับบทเป็น Dr. Grace Augustine ซึ่งทั้งสองบทบาทต่างก็มาในมาดเข้มแข็ง ไม่ก็เคร่งขรึมแทบทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนว่าใน Avatar: The Way of Water นี้จะแตกต่างออกไป

ล่าสุด ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Interview แง้มถึงบทบาทของเธอที่เธอได้รับในภาพยนตร์ Avatar 2 ว่า “ฉันบอกไม่ได้จริง ๆ ค่ะ แต่ฉันจะบอกว่ามันเป็นการยืดขอบเขตการแสดงของฉันครั้งใหญ่ที่สุดในทุก ๆ ทางเลย ฉันคิดว่าถ้า จิม คาเมรอน เขาไม่รู้จักฉันดีจริง ๆ เขาคงไม่เลือกฉันมาแสดงในบทอะไรที่ติ๊งต๊องแบบนี้แน่นอน ฉันได้ทำงานด้วยวิธีที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในการแสดงเป็นตัวละครนี้ ในทางกายภาพมาก ๆ ด้วย”


โดยก่อนหน้านี้ก็มีการคาดเดาว่า ซิกัวร์นีย์ จะมารับบทเป็นลูกสาวของเจค และเนทิรี ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ซึ่งตัวหนังก็ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเป็นตามนี้จริง ๆ หรือไม่ เราคงต้องมารอชมกันว่าจริง ๆ แล้วมันจะเป็นอย่างไร โดย Avatar: The Way of Water วางกำหนดฉายไว้ 14 ธันวาคมนี้ แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้น เร็ว ๆ นี้ Avatar จะกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง กลับไปสัมผัสความยิ่งใหญ่นี้ได้อีกครั้ง 22 กันยายนนี้ ดูหนังใหม่

Thursday, September 1, 2022

Shia LaBeouf ยอมรับว่าเรื่องถูกพ่อทำร้ายในหนังชีวประวัติของเขา เป็นเรื่องแต่ง

ถือเป็นข่าวใหญ่โอละพ่ออีกข่าวที่คนกำลังให้ความสนใจ เมื่อนักแสดงอย่าง Shia LaBeouf ออกมายอมรับตามตรงในรายการพอดคาสต์ Real Ones ของ Jon Bernthal ว่า เรื่องราวที่เขาเขียนบทเองในหนังชีวประวัติของเขาอย่าง Honey Boy ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแต่ง เขาโกหกว่าถูกพ่อแท้ๆทำร้าย ด่าทอ แต่ความเป็นจริงคุณพ่อ Jeffrey LaBeouf ของเขานั้นรักเขามาก

Shia LaBeouf มีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ เขาเป็นดาราเด็กที่เปิดตัวในฐานะดาราซิทคอมของ Disney Channel และหนังอย่าง Holes ก่อนที่เขาจะได้เล่นหนังฟอร์มยักษ์ของ Michael Bay อย่าง Transformers แล้วก้าวสู่การเป็นนักแสดงคุณภาพในหนังมากมาย เช่นหนังภาคต่อ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull และหนังภาคต่อ Wall Street: Money Never Sleeps ก่อนที่เขาจะเริ่มประสบปัญหาการควบคุมตัวเองไม่อยู่และมักมีประเด็นบาดหมางกับนักแสดงคนอื่นๆในหนังที่เขาแสดง

จนกระทั่งเขาเขียนบทหนัง Honey Boy ที่เล่าชีวประวัติอันดำมืดของตนเองในวัยเด็ก เขาร่วมแสดงในบท Jeffrey LaBeouf ซึ่งเป็นพ่อเขาเอง ในหนังนั้นจะพาไปสำรวจปัญหาในวัยเด็กที่เขาถูกทารุณจากคุณพ่อ ซึ่งได้ดาราเด็กอย่าง Noah Jupe แห่ง A Quiet Place และ Lucas Hedges จาก Lady Bird มารับบท Shia LaBeouf ตอนเด็กและตอนโต ตามลำดับ

หนัง Honey Boy ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม นั่นทำให้ Shia LaBeouf กลับมามีจุดยืนในฐานะคนบันเทิงคุณภาพอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ในฐานะนักแสดงเขาเองก็ได้รับคำชื่นชมจากหนังอินดี้อย่าง The Peanut Butter Falcon มีหลายคนยินดีที่ Shia LaBeouf กลับมามีสติอีกครั้ง หลังจากที่ได้ดู Honey Boy แล้วก็มีหลายคนเห็นใจในสิ่งที่เขาโดนมาตลอด ทำให้เขากลายเป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอยแบบทุกวันนี้

เป็นการโกหกครั้งมโหฬาร แต่ผลลัพธ์กลับออกมาเกินคาด เพราะ Honey Boy ได้รับเสียงชื่นชมในงาน Sundance Film Festival 2019 อย่างท่วมท้น และลงสตรีมใน Prime Video นั่นทำให้ผู้คนเห็นใจเขามากขึ้น และดีใจที่เขาสามารถกลับมาได้ ประกอบกับช่วงนี้มีดราม่าระหว่างเขากับผู้กำกับ/นักแสดงสาว Olivia Wilde ที่ออกมาให้ข่าวว่าได้ถอดเขาออกจากหนัง Don't Worry Darling เพราะเขามีความหื่นกระหายที่ทำให้นักแสดงคนอื่นๆในเรื่องอึดอัด Shia LaBeouf ออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง เขาเป็นคนถอนตัวเองเพราะไม่ว่าง เขามีหลักฐานที่จะตอบโต้ Olivia Wilde ได้หมด แฟนๆกำลังถือหางฝั่ง Shia LaBeouf แท้ๆ แต่กลายเป็นว่าการยอมรับตรงๆว่าเรื่องในหนังเป็นเรื่องแต่ง มันก็ย่อมส่งผลไม่ดีตามมาอีกอยู่แล้ว ก็วงการบันเทิงอ่ะเนอะ

ออสการ์ 2023: “มิเชล โหย่ว” ผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิง

มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับเวทีออสการ์ ด้วยการเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวที...