Friday, January 28, 2022

4 เรื่องต้องรู้ จากเทพนิยายชีวิตของ "เจ้าหญิงไดอาน่า" สู่ "Spencer"

กลายเป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนต้องพูดถึง! ในภาพยนตร์ดราม่าสะเทือนอารมณ์สุดละเมียดละไม "Spencer สเปนเซอร์" ผลงานมาสเตอร์พีซเรื่องล่าสุดจากผู้กำกับระดับโลก พาโบล ลาร์เรน และบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของนักแสดงหญิงมากฝีมือ คริสเตน สจ๊วต กับเรื่องราวที่คุณจะได้รู้ว่าทุกเทพนิยายล้วนมีด้านมืดและความจริง ที่ทั้งแผ่ซ่าน พรั่งพรู ไม่มีใครเคยรู้จากชีวิตจริงของ "เจ้าหญิงไดอาน่า" ที่เราจะพาไปรู้จักเธอให้มากกว่าเดิมกับ ด้วย "4 ที่สุดต้องรู้ จากเรื่องจริงเทพนิยายชีวิตที่ทรงคุณค่าตลอดกาล" เพื่อตอกย้ำถึงความปังที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นท่วมท้น จนได้เปอร์เซนต์จากการประเมินของเว็บไซต์นักวิจารณ์อันดับ 1 ของอเมริกา Rotten Tomatoes ถึง 83% และเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณต้องอยากดูหนังเรื่องนี้อีกรอบ  รีวิวซีรี่ย์ใหม่ แนะนำซีรี่ย์ NETFLIX


1) เธอคือ เจ้าหญิงที่ประชาชนรักมากที่สุด

"เจ้าหญิงไดอาน่า" หรือพระนามเดิมคือ "ไดอาน่า ฟรานเซส สเปนเซอร์" จุดเริ่มต้นในชีวิตของไดอาน่ามาจากการหย่าร้างของพ่อแม่ในวัยเยาว์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีผลต่อเธอเป็นอย่างยิ่ง พอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์อังกฤษ และถึงแม้ว่าพระองค์จะมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าหญิง แต่ในทางกลับกันพระองค์ทรงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย รวมถึงพระราชกรณียกิจในเรื่องการช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าจะเป็นในสหราชอาณาจักรหรือในต่างประเทศ ทำให้เจ้าหญิงไดอาน่าเป็นที่รักและนิยมชมชอบมากจนมีการเรียกพระองค์ว่า "เจ้าหญิงของปวงชน"

2) เธอคือ เจ้าหญิงที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่นมากที่สุด

ด้วยพระสิริโฉมและการแต่งกายที่งดงามทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักดีในฐานะแฟชั่นไอคอนของผู้หญิงทั่วโลก ดีไซเนอร์ที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงโปรดปรานคือ "แคทเธอรีน วอล์กเกอร์" ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสที่ออกแบบฉลองพระองค์ให้กับเจ้าหญิงไดอาน่ามานับครั้งไม่ถ้วน จนถึงตอนนี้เจ้าหญิงไดอาน่าก็ยังทรงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางด้านแฟชั่นอยู่ไม่น้อย สำหรับดีไซเนอร์ผู้ออกแบบแบรนด์ต่างๆ ก็มีพระองค์เป็นแรงบันดาลใจในการครีเอทงานและคอลเลกชั่นอันทรงคุณค่าเรื่อยมาจวบจนถึงปัจจุบัน

3) "เจ้าหญิงไดอาน่า" คือบทบาทที่ดีที่สุดของ "คริสเตน สจ๊วต"

หากพูดถึงนักแสดงหญิงที่น่าจับตามองว่าเธอพร้อมจะขึ้นสู่การเป็นดาวจรัสฟ้าคนใหม่ของวงการ แน่นอนว่าชื่อของ "คริสเตน สจ๊วต" นักแสดงสาวชาวอเมริกันคือ 1 ในบุคคลที่ติดท็อปชาร์ตจากทุกหลายสำนักอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากสร้างชื่อด้วยภาพยนตร์แฟรนไชส์สุดฮิต The Twilight Saga (2008-2012) และพิสูจน์ความสามารถที่หลากหลายด้วยผลงานมากมาย โดยเฉพาะ Clouds of Sils Maria (2014) ที่ส่งให้เธอเป็นนักแสดงชาวอเมริกันคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์ฝรั่งเศส หรือ "ซีซาร์ อวอร์ด" (César Awards) มาครองได้อย่างพลิกความคาดหมาย

แล้ววันนี้คริสเตนก็ได้พิสูจน์ความสามารถทางการแสดงให้ทั้งโลกต้องยอมรับในฝีมือของเธออย่างเป็นเอกฉันท์ กับบทบาท "เจ้าหญิงไดอาน่า" ที่ไม่ได้เพียงแต่ยอดเยี่ยม ทรงพลัง แต่ยังเป็นในแง่ที่มันเป็นบทสุดท้าทายกว่า โดยเฉพาะในแง่ที่มันพาผู้ชมไปสำรวจด้านที่ "ลึกสุด" มากๆ ของตัวละคร และทำให้คนดูรับรู้ได้ถึงความอุทิศและทุ่มเทของคริสเตน จนมั่นใจได้ว่าเธอควรชนะทุกรางวัลจากหนังเรื่องนี้

4) สู่ภาพยนตร์ "เจ้าหญิงไดอาน่า" ที่ดีที่สุดตลอดกาล

ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งไหน! แม้เรื่องราวของ "เจ้าหญิงไดอาน่า" จะเป็นเรื่องที่รับรู้กันดีในวงกว้าง และถูกนําไปสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีและบันเทิงคดีนับไม่ถ้วน แต่ความพิเศษของภาพยนตร์ "Spencer สเปนเซอร์" จะมาพร้อมกับแง่มุมใหม่เร้นโลกและเข้าถึงใจผู้ชมให้เป็นมากกว่าหนังชีวประวัติ ผ่านฝีมือผู้กำกับสายทำลายล้างทางด้านอารมณ์ "พาโบล ลาร์เรน" จาก Jackie ที่พาผู้ชมล้วงลึกเข้าไปในจิตใจก้นบึ้งของเจ้าหญิง ซึ่งเต็มไปด้วยมิติมนุษย์อันซับซ้อนที่ต้องแลกมาด้วยอิสรภาพและตัวตนของเธอ ยืนยันด้วยปรากฏการณ์ยืนปรบมือยาวนาน 5 นาทีเต็ม ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 78 ประจำปี 2021 และเสียงตอบรับจากคนดูชาวไทยที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

Thursday, January 27, 2022

ยังแรงไม่เลิก Spider-Man: No Way Home กลับมาโค่น Scream อีกครั้งในบ๊อกซ์ออฟฟิศอเมริกา

ขึ้นชื่อว่าหนังมาร์เวล มักจะมีอะไรให้แฟนๆตื่นเต้นกันไม่เลิกไม่ลา เพราะล่าสุด Spider-Man: No Way Home กลับมาครองแชมป์บนตารางบ๊อกซ์ออฟฟิศในอเมริกาอีกครั้ง หลังจากที่สัปดาห์ก่อน Scream (หรือ Scream 5) สามารถเปิดตัวด้วยรายได้ 30.6 ล้านเหรียญไปในสุดสัปดาห์ที่ 14-16 มกราคม 2022 เบียดเอาอดีตแชมป์ Spider-Man: No Way Home ที่ครองอันดับที่ 1 มายาวนานถึง 3 สัปดาห์ซ้อน หล่นไปอยู่ในตำแหน่งที่ 2 ในทันที แนะนำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น

ทว่าในสัปดาห์ล่าสุดนี้ Spider-Man: No Way Home กลับมายึดบัลลังก์หนังทำเงินอันดับ 1 กลับไปครองเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการเก็บรายได้เพิ่มไปอีก 14 ล้านเหรียญฯ ทำให้รายรับรวมในอเมริกาเหนือกวาดเงินไปแล้วทั้งสิ้น 721 ล้านเหรียญ ส่วนในตลาดต่างประเทศทำเงินไปอีก 970 ล้านเหรียญฯ สิริรวมรายได้ทั้งสิ้น ณ เวลานี้ อยู่ที่ 1,691 ล้านเหรียญฯ และยังเดินหน้าทำรายได้ต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน

ตอนนี้ถ้าหากคิดเฉพาะรายได้ในอเมริกาอย่างเดียว Spider-Man: No Way Home กลายเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 4 ตามหลังอันดับที่ 3 อย่าง The Avengers (รายได้ 760 ล้านเหรียญฯ) อันดับที่ 2  Avengers: Endgame (858 ล้านเหรียญฯ) และอันดับที่ 1 Star Wars: The Force Awakens (936 ล้านเหรียญฯ)

ส่วนอดีตแชมป์เก่าในสัปดาห์ก่อนอย่าง Scream ทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไปอีก 12 ล้านเหรียญ ซึ่งรายได้ลดลงกว่า 58.7% ทำให้ตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 2 ไปโดยปริยาย แต่รายรับรวมในอเมริกาตอนนี้ ทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 51 ล้านเหรียญฯ ส่วนในตลาดต่างประเทศทำเงินไป 33 ล้านเหรียญฯ ทำให้รายรับรวมทั่วโลก ณ ตอนนี้โกยเงินไปแล้วทั้งสิ้น 84 ล้านเหรียญฯ

โดยปกติแล้วเดือนมกราคม ตามธรรมเนียมดั้งเดิมของฮอลลีวูดมักจะถือเป็นช่วง “ทิ้งขยะ” สำหรับบรรดาหนังฟอร์มใหญ่ที่มีสภาพท่าดีทีเหลว (ซึ่งปัจจุบันสตูดิโอมักไหวตัวทันและโยนหนังเหล่านี้ไปลงสตรีมมิ่งแทน) และยังถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยจะมีหนังฟอร์มใหญ่เข้าฉายสักเท่าไหร่ในเดือนนี้ ทำให้เป็นโอกาสอันดีสำหรับ Scream ที่เลือกมาเปิดตัวในเดือนนี้จึงถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับสตูดิโออย่างพาราเมาต์ และเมื่อหนังทำเงินทั่วโลกไปแล้ว 84 ล้านเหรียญฯ ตอนนี้สตูดิโอก็คงได้แต่ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว


Wednesday, January 26, 2022

เมื่อโลกใกล้สูญสิ้น ภารกิจไล่ดวงจันทร์ กอบกู้โลกจึงเกิดขึ้นใน Moonfall

 เมื่อโลกใกล้ถึงวันสูญสิ้น ภารกิจครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้น

“แพทริก วิลสัน” พลิกบทบาทครั้งสำคัญ หยุดไล่ผี

สวมบทนักบิน ไล่ดวงจันทร์ อาสากอบกู้โลก

กับ “Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก”

ผลงานมหันตภัยจาก ผู้กำกับ ID4 และ The Day After Tomorrow

แพทริก วิลสัน นักแสดงและนักร้องบรอดเวย์ชื่อดังที่ได้รับการยกย่อง และเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการทุ่มเทและอย่างเต็มที่กับงานการแสดงของเขา ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงแถวหน้าที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างบทนักไล่ผีชื่อดังอย่าง เอ็ด วอร์เรน ในแฟรนไชส์ The Conjuring ภาพยนตร์สยองขวัญที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล รวมถึงมีผลงานทางโทรทัศน์ที่โดดเด่นในบทบาทของ ลูเซิร์ฟ เวอร์สัน ในละครโทรทัศน์เรื่อง Fargo ที่ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่างๆมากมาย

และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถึงเวลาเปิดศักราชใหม่ด้วยผลงานภาพยนตร์แอ็กชัน-มหันตภัยบล็อกบัสเตอร์เรื่องล่าสุดที่ แพทริก วิลสัน กลับมาพลิกบทบาทครั้งสำคัญจากมือปราบผีสู่นักบินอวกาศผู้กอบกู้โลก และเป็นความหวังเดียวของมนุษยชาติ ในภาพยนตร์เรื่อง Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก ซึ่งเขารับบทเป็น ไบรอัน ฮาร์เปอร์ หนึ่งในทีมนักบินอวกาศ ผู้มีประสบการณ์และเป็นผู้เชี่ยวชาญมือหนึ่งและยังเป็นความหวังเดียวของภารกิจ ที่ร่วมกับเพื่อนสนิทอย่าง โจ ฟาวเลอร์ (ฮัลลี เบอร์รี) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NASA และอดีตมนุษย์อวกาศ พวกเขาต้องกอบกู้โลกจากหายนะครั้งใหญ่ เมื่อดวงจันทร์หลุดวงโคจรและกำลังจะมุ่งมาถล่มโลก เขาต้องเดินทางออกไปยังอวกาศเพื่อปฎิบัติภารกิจชี้เป็นชี้ตายในครั้งนี้ เพื่อปกป้องคนที่พวกเขารักและทุกชีวิตบนโลก  

สนับสนุนข้อมูลโดย อนิเมะจีน

Tuesday, January 25, 2022

"AI Love You" หนังใหม่ของ "มาริโอ้-ใบเฟิร์น" ติดเทรนด์อันดับ 1 ประเทศจีน

สองนักแสดง มาริโอ้ เมาเร่อ และ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก หลังแจ้งเกิดดังพลุแตกกลายเป็นตำนาน น้องน้ำและพี่โชน ในภาพยนตร์ สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก เมื่อปี 2553 ภาพยนตร์รักขวัญใจคนไทย ล่าสุดได้กลับมาร่วมงานกันในรอบ 12 ปี กับภาพยนตร์ไทยเรื่องใหม่ AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด เตรียมเข้าฉายบน Netflix

ทำแฟนๆ ตื่นเต้นไม่น้อยกับผลงานล่าสุดของคู่จิ้นในตำนานพี่โชนและน้องน้ำ หรือ มาริโอ้และใบเฟิร์น ในภาพยนตร์ไทยแนวไซไฟโรแมนติกคอเมดี้ AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด เรียกว่าไม่ใช่แค่แฟนชาวไทยที่รอติดตามผลงานของ มาริโอ้และใบเฟิร์น ทันทีที่มีการประกาศฉาย AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด ก็ติดเทรนด์อันดับ 1 บน Weibo แพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนทันที การันตีความโด่งดังของ มาริโอ้และใบเฟิร์น ได้อย่างดีเยี่ยม

AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด จะเล่าเรื่องราวความรักในโลกอนาคตของ ด๊อบ ระบบ Ai ตึกอัจฉริยะที่ดันตกหลุมรักสาวบ้างาน ลาน่า (ใบเฟิร์น) เกิดเป็นรักที่เป็นไปไม่ได้ แต่แล้ววันหนึ่งระบบเกิดขัดข้อง ทำให้ Ai ด๊อบ ถูกอัปโหลดลงในร่างของ บ๊อบบี้ (มาริโอ้) ผู้ชายสุดห่วยจากเดทที่ล้มเหลวของลาน่า ด๊อบในร่างบ๊อบบี้จึงทำทุกวิถีทางให้ลาน่าตกหลุมรักเขา ท่ามกลางการไล่ล่าของเจ้าของบริษัท Ai ที่ต้องการล้างระบบด๊อบและส่งร่างคืนบ๊อบบี้ ความรักของหุ่นยนต์ที่ไม่มีหัวใจ แต่ก็ใช่ว่ารักใครไม่เป็น จะลงเอยอย่างไร ต้องรอติดตามกันจ้า แนะนำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น

Monday, January 24, 2022

"A Man and A Woman จูบนั้น ฉันจำ ไม่ลืม" หนังรักเรื่องใหม่ของ "กงยู"

หลังจากประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์ Come Rain, Come Shine ผู้กำกับ อียุนกี มองหานักแสดงสำหรับโปรเจกต์ภาพยนตร์รักเรื่องใหม่ A Man and A Woman โดย 2 นักแสดงที่ อียุนกี ตั้งใจให้มารับบทนำคือ จอนโดยอน และ กงยู ซึ่งถ้าไม่ได้ทั้งคู่มานำแสดง อียุนกี ก็จะไม่เดินหน้าสร้างหนังเรื่องนี้ หนังถ่ายทำในประเทศเกาหลี และฟินแลนด์ เพราะผู้กำกับ อียุนกิ ต้องการบรรยากาศที่แตกต่างไปจากหนังรักเกาหลีทั่วไป อีกทั้งภูมิประเทศฟินแลนด์ มีความโรแมนติก และ เหงา ทั้งยังมีความอ้างว้าง ห่างไกลผู้คน เหมาะที่จะทำให้ตัวละครทั้งสองตัวได้รู้จักและเริ่มต้นความสัมพันธ์กัน  ดูหนังใหม่

กีฮง (กงยู) และ ซังมิน (จอนโดยอน) ทั้งคู่เดินทางมาส่งลูกไปเข้าโปรแกรมแคมป์เด็กพิเศษที่ฟินแลนด์ ที่นั่น เขาและเธอพบกันโดยบังเอิญ และด้วยความเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน กีฮง อาสาพา ซังมิน ไปส่ง แต่ด้วยหิมะที่ตกหนัก จนต้องแวะพักระหว่างทาง จนก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เกินเลยกว่าการเป็นเพื่อนร่วมทาง วันรุ่งขึ้นทั้งคู่ต่างบอกลาและแยกย้ายไปใช้ชีวิตปกติของตนเอง โดยหยุดความสัมพันธ์ลงที่นี่ ทั้งที่ยังไม่รู้จักชื่อของกันและกันด้วยซ้ำ

จอนโดยอน เล่าความรู้สึกของการได้ร่วมงานกับกงยูว่า "เขาให้เกียรติฉันมากๆ และทุกฉากที่เข้าด้วยกัน เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกใครสักคนรัก มันช่วยให้ฉันเข้าถึงบทบาทได้ดีขึ้น" A Man and A Woman จูบนั้น ฉันจำ ไม่ลืม 10 กุมภาพันธ์ รับวาเลนไทน์

Sunday, January 23, 2022

"แพจินยอง CIX" นำแสดงหนังสยองขวัญสิงคโปร์ ที่ถ่ายทำในประเทศไทย

ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง ตามรายงานข่าว แพจินยอง จะรับบทนำในภาพยนตร์ร่วมไทย-สิงคโปร์ ก้าวเข้าสู่ระดับโลกกับความท้าทายบนจอเงิน ต้นสังกัด C9 Entertainment กล่าวว่า "แพจินยอง ได้รับบทในภาพยนตร์ร่วมไทย-สิงคโปร์ และกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ" ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ในฐานะนักแสดงแพจินยองที่ได้ร่วมงานระดับนานาชาติ และถือเป็นครั้งแรกที่แพจินยองจะได้เดบิวต์งานแสดงบนจอภาพยนตร์ ร่วมกับ XU BIN และ DAMIEN TEO นักแสดงชื่อดังของสิงคโปร์ ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ใช้สถานที่ถ่ายทำในประเทศไทยและใช้บริษัทมีเดียของไทยเป็นฝ่ายผลิต

ก่อนหน้านี้ แพจินยอง (Bae Jinyoung) สมาชิกบอยกรุ๊ป CIX (ซีไอเอ็กซ์) ได้ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติอินชอน มายังกรุงเทพฯ ประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ท่ามกลางความตื่นเต้นและสงสัยของแฟนคลับถึงการเดินทางเยือนเมืองไทยในครั้งนี้ ได้ไขข้อข้องใจแล้วว่าเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ของเขา โดย แพจินยอง กำลังมีผลงานนำแสดงในเว็บดราม่าเรื่อง @Account Has Been Deleted หรือ User Not Found​ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้ขึ้นเป็นอันดับ​ 1 บน​ Abema TV ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม OTT ของญี่ปุ่น​และได้รับความสนใจอย่างมาก แฟนๆ รอติดตามภาพยนตร์เรื่องแรกของแพจินยองบนจอเงินได้เลย! 


Thursday, January 20, 2022

แรงไม่หยุด! ‘Spider-Man: No Way Home’ เตรียมขึ้นอันดับที่ 4 ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของสหรัฐฯ

ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง ล่าสุดเว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า ‘Spider-Man: No Way Home’ ทำรายได้ในสุดสัปดาห์ล่าสุด (14-16 มกราคม 2022) ไปอีก 20.8 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมนั้นอยู่ที่ 698.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 23,200 ล้านบาท นั่นส่งผลทำให้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ขึ้นเป็นภาพายนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 5 ของสหรัฐฯ และกำลังจะขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 แซงหน้า ‘Black Panther’ (2018) ที่ทำราวได้เอาไว้ 700.4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 23,300 ล้านบาท

ในส่วนของรายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 1,625 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 54,000 ล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 8 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล ตามหลัง ‘The Lion King’ (2019) ที่ทำไว้ 1,662.9 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 55,300 ล้านบาท ‘Spider-Man: No Way Home’ เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ในเฟสที่ 4 ของแฟรนไชส์ MCU (Marvel Cinematic Universe) ซึ่งเป็นการจบไตรภาค Spider-Man เวอร์ชันของ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อผลักดันให้เขาเป็นซูเปอร์ฮีโรฉายเดี่ยวอย่างเต็มภาคภูมิในไตรภาคถัดไป

‘Spider-Man: No Way Home’ ได้เข้าฉายเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2021 โดยสามารถทำสถิติรายได้มากมายตั้งแต่เข้าฉายวันแรก เช่น เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงสุดนับตั้งแต่ ‘Avengers: Endgame’ (2019) หรือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ที่สามารถทำรายได้ถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ เป็นต้น

Wednesday, January 19, 2022

จอน วัตต์ส จาก ‘Spider-Man: No Way Home’ นั่งแท่นกำกับ ‘Fantastic Four’ ฉบับรีบูต

ขณะที่ ‘Spider-Man: No Way Home’ กำลังทำเงินทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ฝั่งผู้กำกับอย่าง จอน วัตต์ส (Jon Watts) เองก็กำลังเนื้อหอมและงานยุ่งพอสมควร เพราะหลังจากกำกับไตรภาคไอ้แมงมุมฉบับ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) จบ เขายังรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ ‘Final Destination’ ของ New Line Cinema และยังมีโปรเจกต์ที่ร่วมงานกับ จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney) และ แบรด พิตต์ (Brad Pitt) ทาง Apple TV ด้วย แต่ถึงจะมีงานที่น่าติดตามรออยู่เพียบ ผู้กำกับคิวทองรายนี้ก็ยังมีอีกโปรเจกต์ร่วมกับ Marvel Cinematic Universe นั่นก็คือการรีบูตภาพยนตร์ ‘Fantastic Four’ นั่นเอง ดูหนังใหม่

จากรายงานของ Variety หลังจากวัตต์สกำกับ ‘Final Destination’ แล้ว คราวนี้น่าจะถึงคิวของ ‘Fantastic Four’ ฉบับรีบูตที่จะกลายมาเป็นผลงานเรื่องต่อไปของเขาใน MCU อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่มีกำหนดวันฉายจาก Marvel Studios นอกจากนี้ยังแทบไม่มีข่าวอะไรเปิดเผยออกมาเลย แต่แฟน ๆ 4 พลังคนกายสิทธิ์ก็เตรียมตัวรอกันไว้ก่อนได้ เนื่องจาก Marvel Studios แง้ม ๆ ออกมาแล้วว่ากำลังพัฒนาโปรเจกต์นี้อยู่ ถึงจะยังไม่มีนักเขียนบทและนักแสดงก็ตาม

‘Fantastic Four’ ฉบับปี 2015 นั้นเป็นผลงานที่เรียกได้ว่าน่าผิดหวังเพราะแฟน ๆ ที่ได้รับชมต่างเห็นไปทางเดียวกันว่าตัวภาพยนตร์นั้นทำได้ไม่สุดสักทาง รวมถึงการแคสต์นักแสดงที่ไม่ตรงตามคอมิกที่เป็นประเด็นร้อนมาตั้งแต่ช่วงแรก แต่ถึงหลายคนจะเปิดใจรับนักแสดง บทและองค์ประกอบของภาพยนตร์ฉบับนี้ก็ยังซื้อใจคนดูไม่ได้อยู่ดี ก็ได้แต่หวังว่าโปรเจกต์รีบูต ‘Fantastic Four’ จะออกมาเป็นรูปร่างและมีความคืบหน้ามาอัปเดตให้ได้รู้กันในเร็ว ๆ นี้

Tuesday, January 18, 2022

กระแส ‘Spider-Man: No Way Home’ ดันยอดผู้ชม ‘Spider-Man’ ทุกเวอร์ชันใน Netflix พุ่งสูงติดอันดับโลก

เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ชม ‘Spider-Man: No Way Home’ กันไปแล้ว นอกจากความสนุกแบบ Marvel ที่เราคุ้นเคย ยังมีการนำ Spider-Man จาก 3 ยุคมาอยู่บนจอเดียวกันจนทำให้ชวนคิดถึงบรรยากาศความตื่นเต้นในอดีต ส่งผลให้ภาพยนตร์ ‘Spider-Man’ ภาคเก่า ๆ ติดอันดับยอดผู้ชมมากสุดใน Netflix ไปในที่สุด

อย่างที่รู้กันว่า Netflix บรรลุข้อตกลงที่จะนำภาพยนตร์ของ Sony มาฉายผ่านสตรีมมิงของตัวเอง ดังนั้นเมื่อ ‘Spider-Man: No Way Home’ เข้าฉาย หลายคนจึงกลับมาย้อนความหลังกับ ‘Spider-Man’ ปี 2000 ที่กำกับโดย แซม ไรมี (Sam Raimi) และ ‘Spider-Man: Homecoming’ กลายเป็นภาพยนตร์ติดอันดับท็อป 10 ของ Netflix จากผู้ชมทั่วโลก โดยสถิติล่าสุดที่ผ่านมา ‘Spider-Man: Homecoming’ ติดอันดับ 6 มียอดผู้เข้าชมกว่า 14 ล้านชั่วโมง และ ‘Spider-Man’ ฉบับไรมี อยู่อันดับ 10 โดยมียอดผู้ชมกว่า 5.4 ล้านชั่วโมง

เรียกได้ว่า ‘Spider-Man: No Way Home’ นั้นเป็นอะไรที่มีความหมายมาก เพราะนอกจากจะเป็นการปิดไตรภาคฉบับทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ยังทำให้แฟน ๆ หลายคนได้ย้อนนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ จากการที่เห็นนักแสดงที่ตัวเองรักกลับมารับบทฮีโรเพื่อนบ้านที่แสนดีคนเดิมอีกครั้ง ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง

Monday, January 17, 2022

Scream (2022) : ภาคที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์ นับตั้งแต่ต้นฉบับปี 1996

สื่อต่างประเทศได้เริ่มปล่อยคำวิจารณ์แรกของ  Scream (2022) ภายหลังจากที่ได้ชมรอบสื่อมวลชนไปแล้ว และตัวภาพยนตร์ก็กำลังจะเข้าฉายที่สหรัฐฯ ในวันที่ 14 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา‘Scream’ เป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์แนวไล่เชือดที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยภาคแรกเมื่อ 1996 ได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการแหกทุกกฏเกณฑ์ของภาพยนตร์แนวไล่เชือดแบบเดิม ๆ ออกไป จนมีการสร้างภาคต่ออย่าง ‘Scream 2’ (1997) ที่ยังคงประสบความสำเร็จเช่นเดิม แม้ว่าจะไม่สดใหม่แต่ก็ยังคงเฉียบขาดและลุ้นระทึก แต่ ‘Scram 3’ (2000) และ ‘Scram 4’ (2011) กลับไม่ประสบความสำเร็จในระดับสูงดังเช่น 2 ภาคแรก สำหรับ ‘Scream’ เวอร์ชัน 2022 นี้ เป็นภาคที่ 5 ในแฟรนไชส์ ซึ่งหลายสื่อได้ชื่นชมในความลุ้นระทึก และบทภาพยนตร์อันชาญฉลาดเช่นเดิม  รีวิวหนังใหม่ หนังชนโรง

Ian Sandwell จาก Digital Spy

ภาพยนตร์สามารถทำให้เราเอาใจช่วยตัวละครใหม่ไปพร้อมกับตัวละครดั้งเดิมไปได้อย่างน่าประหลาดใจ การได้เห็น Sidney, Dewey และ Gale กลับมาอีกครั้ง สามารถสร้างความชุ่มชื่นหัวใจได้เสมอ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง Sam และ Tara ก็ดูลึกซึ้งเช่นกัน ต้องขอบคุณการแสดงอันยอดเยี่ยมของ เมลิสซา บาร์เรลา (Melissa Barrera) และ เจนน่า ออร์เทก้า (Jenna Ortega)


David Rooney จาก The Hollywood Reporter

แมตต์ เบตติเนลลี-โอลพิน (Matt Bettinelli-Olpin) และ ไทเลอร์ กิลเล็ตต์ (Tyler Gillett) ได้ร่วมกันกำกับภาพยนตร์ออกมาให้เต็มไปด้วยความน่ากลัวและมีเหตุผลได้อย่างน่าชื่นชม แต่ปัญหาก็คือพวกเขาใช้กลไกของพลอตภาพยนตร์แนวไล่เชือดเพื่อสร้างวามลุ้นระทึกออกมาได้น้อยไปหน่อย


Kat Hughes จาก THN

นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในแฟรนไชส์ที่ เวส เครเวน (Wes Craven) ไม่ได้กำกับ ซี่งเป็นเวอร์ชันที่แสดงความเคารพต่อประวัติอันยาวนานของภาพยนตร์สยองขวัญในอดีตในรูปแบบของภาพยนตร์สยองขวัญรุ่นใหม่ มันทั้งสนุกในแบบน่ากลัว และมีอารมณ์ขันร่วไปด้วย นี่เป็นการพิสูจน์ว่าฆาตกรหน้ากากผีได้กลับมาแล้ว และยิ่งเลือดสาดมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก

Sunday, January 16, 2022

รีวิว Ron’s Gone Wrong หนังสยองขวัญในคราบหุ่นเพี้ยนเพื่อนรัก

แนะนำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นหนึ่งในภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมที่น่าติดตามมากที่สุดใน Ron’s Gone Wrong บอกเล่าเรื่องราวของบาร์นี่ (แจ็ค ดิแลน แกรเซอร์) เด็กชายวัย 11 ปีที่มีปัญหากับการเข้าสังคมในโรงเรียน เขามักโดนเพื่อนๆมองเป็นตัวประหลาดจนเพื่อนไม่คบ มิหนำซ้ำในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังได้ทำการผลิตหุ่นยนต์เอไอซึ่งจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเด็กๆทั่วเมือง โดยเจ้าหุ่นตัวนี้จะสามารถเข้าถึงโซเชียลมีเดียทุกประเภทได้อย่างง่ายดายและทำความรู้จักเจ้าของได้เป็นอย่างดี

เมื่อถึงวันเกิด บาร์นี่ได้รับของขวัญเป็นหุ่นยนต์เอไอตัวใหม่ ซึ่งเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่า พ่อของเขาซื้อตัวที่ดันมีปัญหาด้านอัลกอริทึ่ม ทำให้มันทำงานไม่ค่อยปกตินักและมักจะสร้างความขายหน้าให้กับบาร์นี่อยู่บ่อยๆ จนบาร์นี่เองเกิดอาการไม่พอใจและไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับเจ้าหุ่นตัวนี้ แน่นอนว่าหนังแนวมิตรภาพสุดแปลกประหลาดมักจะเริ่มต้นขึ้นจาก ความสัมพันธ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ โดยนอกจากหนังเรื่องนี้จะเป็นเกี่ยวกับคนและหุ่นยนต์แล้ว มันยังเป็นเรื่องราวของตัวละครสองตัวที่มีปมด้อยในตัวเองอย่างชัดเจน คนหนึ่งอยากจะได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆรอบตัว ด้วยการมีหุ่นยนต์เอไอเป็นของตัวเอง ส่วนอีกตัวหนึ่งมีระบบอัลกอริทึ่มที่ผิดพลาดและไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตามระหว่างทางตัวละครทั้งสองตัวได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ต่างเติมเต็มสิ่งที่พวกเขาขาดหาย แต่ในช่วงเริ่มต้นที่ทั้งสองผูกสัมพันธ์กันมีความรุนแรงและน่ากลัวอยู่ภายใต้ฉากตลกโปกฮา ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เจ้ารอน หุ่นเอไอเกิดอาการรวนและขว้างปาของมีคมใส่คุณยาย หรือกระทั่งตอนที่เจ้ารอนจับไก่มาดึงคอจนแทบจะหัวขาดกระจุย จนเรานึกภาพตามไม่ออกอยู่เหมือนกันว่าถ้าหนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังเรท R ขึ้นมา คงมีตัวละครเลือดตกยางออกแบบตุ๊กตาผีอย่าง Chucky แน่นอน

ท่ามกลางการผจญภัยของตัวละครทั้งสองตัวนี้ เมื่อเดินทางไปสู่จุดที่พวกเขาต้องเลือกว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง หนังก็มอบโมเมนต์ที่น่าจดจำและน่าประทับใจอยู่ไม่น้อย เมื่อสุดท้ายแล้ว การนิยามความหมายของคำว่า “เพื่อน” นั้น ไม่จำเป็นเสมอไปที่พวกเขาจะต้องตัวติดกันตลอดไป เพราะจริงๆแล้วมิตรภาพนั้นเกิดขึ้น และจะดำรงอยู่ตลอดไปในความทรงจำอันแสนงดงาม ถึงแม้ว่า Ron’s Gone Wrong จะเป็นแอนิเมชั่นมิตรภาพระหว่างคนและหุ่นยนต์ที่ไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่ถือว่าเป็นผลงานสำหรับครอบครัวที่ดูได้สนุกทีเดียวเชียว

Saturday, January 15, 2022

อิคาริสอาจได้กลับมา! เผยข้อมูลใหม่ที่ใบ้ถึงอนาคต Eternals ที่แข็งแกร่งที่สุด

หนึ่งในภาพยนตร์ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ และแสดงความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Eternals ทีมฮีโร่พลังเทพเจ้า ที่พาเราไปรู้จักกับเหล่าอีเทอร์นัลส์ทั้ง 10 คนที่เดินทางมายังโลก ใช้ชีวิตแทรกซึมอยู่ในอารยธรรมต่าง ๆ ยาวนานกว่า 7,000 ปี จนกระทั่งเกิดภัยร้ายครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเก่า จนทำให้ทุกคนต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อจัดการมัน กลายเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่ กับความรู้สึก และคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับหน้าที่ก็คือ อิคาริส Eternals ที่แข็งแกร่งที่สุด

ในตอนจบของ Eternals เราได้เห็นแล้วว่าตัวละคร อิคาริส มีจุดจบอย่างไร เขารู้สึกผิดกับครอบครัวตัวเองจนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองโดยการบินเข้าดวงอาทิตย์ไป แต่นั่นอาจจะไม่ใช่จุดจบของตัวละครตัวนี้ เพราะข้อมูลล่าสุดนี้เปิดเผยออกมาจาก เอ็มมี่ เคนนาร์ด ที่ได้ออกมาโพสต์ผ่าน Tiktok ของตัวเองว่า พี่ชายของเธอ โจ เคนนาร์ด นักแสดงสตั๊นท์ของริชาร์ด แมดเดน ที่รับบท อิคาริส จะกลับไปแสดงบทสตั๊นท์ให้กับตัวละครใน MCU อีกครั้ง

ข้อมูลเล็ก ๆ เพียงแค่นี้ อาจจะไม่เพียงพอที่จะบอกได้ว่า เราจะได้เห็น อิคาริส กลับมาอีกครั้งใน MCU แถมยังเป็นเร็ว ๆ นี้อีกต่างหาก อีกทางหนึ่งก็คือ โจ เคนนาร์ด อาจจะมารับหน้าที่เป็นสตั๊นท์ให้กับตัวละครอื่นที่จะปรากฏตัว ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะปรากฏตัวเร็ว ๆ นี้ก็ได้ อาทิ US Agent ตัวละครใหม่ที่มาเป็นเหมือนกัปตันอเมริกาที่กองทัพอเมริกาแต่งตั้งขึ้นมา ซึ่งรับบทโดย Wyatt Russell ซึ่งโจ เคยรับหน้าที่เป็นสตั๊นท์แมนให้เขาในภาพยนตร์เรื่อง Overlord

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็มารอติดตามกันต่อไป ไม่เพียงแค่อนาคตของ อิคาริส เท่านั้น แต่เป็นอนาคตของเหล่าตัวละครใน Eternals ด้วย เพราะในตอนจบนั้นกว่าครึ่งของพวกเขาที่เหลืออยู่ถูก เซเลสเทียล จับกุมตัวไปเพื่อค้นความทรงจำว่ามนุษย์มีค่าเพียงพอให้ไว้ชีวิตหรือไม่ ในขณะที่อีกครึ่งเดินทางไปยังดาวดวงอื่น ๆ เพื่อเปิดเผยความจริง จนได้รู้ว่าเพื่อน ๆ ของพวกเขาเกิดภัยขึ้นมาและต้องกลับไปช่วยเหลือ มารอดูกันว่าจะเป็นอย่างไร

สนับสนุนข้อมูลโดย ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง

Friday, January 14, 2022

ไมเคิล เบย์ เตรียมรีเมก ‘The Raid’ ร่วมกับผู้กำกับต้นฉบับ

เตรียมตื่นตาไปกับโปรเจกต์รีเมก ‘The Raid’ ภาพยนตร์แอ็กชันระดับสร้างปรากฏการณ์จากประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี 2011 ที่จะฉายทาง Netflix กำลังเดินหน้า โดยได้ผู้กำกับระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) มารับหน้าที่อำนวยการสร้างร่วมกับ แกเร็ท อีแวนส์ (Gareth Evans) ผู้กำกับ ‘The Raid: Redemption’ เวอร์ชันต้นฉบับเมื่อปี 2011 และภาคต่ออย่าง ‘The Raid 2’ เมื่อปี 2014

‘The Raid’ เวอร์ชัรีเมกนี้ จะกำกับโดย แพทริก ฮิวจ์ส (Patrick Hughes) จาก ‘The Expendables 3’ (2014) และ ‘The Hitman’s Bodyguard’ (2017) โดยจะเดินเรื่องในสหรัฐฯ ว่าด้วยเรื่องราวของตำรวจนอกเครื่องแบบในเมืองฟิาเดลเฟียที่ต้องแฝงตัวในกลุ่มค้ายาเสพติดและไต้เต้าขึ้นไปในตำแหน่งระดับสูงเพื่อโค่นล้มเจ้าพ่อค้ายาเสพติดให้ได้ เบย์ และ อีแวนส์ ได้กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นมากในมุมมองที่แตกต่างออกไปของ แพทริก และการออกแบบฉากแอ็กชันที่เป็นการเคารพต่อภาพยนตร์ต้นฉบับ พร้อมทั้งทำให้ดูสดใหม่และเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง

‘The Rad’ หรือ ‘The Raid: Redemption’ เป็นภาพยนตร์แอ็กชันคลาสสิกจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี 2011 ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการออกแบบฉากแอ็กชันที่รุนแรง และมีลีลาไม่เหมือนใคร พร้อมทั้งเนื้อเรื่องที่บีบคั้นอารมณ์ผู้ชมสุด ๆ จนส่งให้นักแสดงแอ็กชันอย่าง อิโก อูไวส์ (Iko Uwais), โจ ตาซลิม (Joe Taslim) และ ยายาน รูเฮียน (Yayan Ruhian) กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทำให้ทั่วโลกรู้จักศิลปะการต่อรู้ของอินโดนีเซียที่เรียกว่า ปันจักสีลัต มากขึ้น

ด้วยความสำเร็จอย่างมหาศาล ได้ทำให้ แกเร็ท อีแวนส์ สร้าง ‘The Raid 2’ ขึ้นมาเมื่อปี 2014 ซึ่งยังคงประสบความสำเร็จเช่นเดิม และถึงแม้ว่าจะมีการพูดคุยเพื่อสร้างภาค 3 ต่อ แต่โปรเจกต์ดังกล่าวก็เงียบหายไป ทั้งนี้ แพทริก ฮิวจ์ส ได้พยายามพัฒนาโปรเจกต์รีเมก ‘The Raid’ มานานหลายปี จนกระทั่งโปรเจกต์ได้ตกมาอยู่ในมือของ Netflix และการได้ผู้กำกับต้นฉบับ และ ไมเคิล เบย์ ที่มีผลงานกำกับและอำนวยการสร้างภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์มากมาย ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะยกระดับภาพยนตร์ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

สนับสนุนข้อมูลโดย ดูหนังใหม่


Thursday, January 13, 2022

‘Turning Red’ แอนิเมชันล่าสุดของ Pixar จะข้ามไปฉายบน Disney+ โดยตรง

Disney ได้ประกาศว่า ‘Turning Red’ แอนิเมชันล่าสุดของ Pixar จะเปลี่ยนจากการฉายในโรงภาพยนตมาฉายบนบริการสตรีมมิง Disney+ โดยตรง นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการ Disney+ ยังจะสามารถชม ‘Turning Red’ ได้โดยที่ไม่ต้องชำระค่าบริการพิเศษแบบ Premier Access เพิ่มเติมอีกด้วย โดย Premier Access เป็นค่าบริการพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าบริการรายเดือน  ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง

‘Turning Red’ เป็นเรื่องราวของ Mei เด็กสาวที่พบว่าตนเองจะกลายร่างเป็นแพนด้าแดงทุกครั้งที่เธออารมณ์ความเป็นวัยรุ่นของเธอพลุ่งพล่าน โดยได้ โรซาลี เจียง (Rosalie Chiang) มาให้เสียงพากย์เป็น Mei และ แซนดรา โอห์ (Sandra Oh) จากซีรีส์ ‘Grey Anatomy’ ให้เสียงพากย์เป็นแม่ของ Mei ภายใต้การกำกับของ โดมี ชิ (Domee Shi) ที่เคยมีผลงานกำกับแอนิเมชันขนาดสั้นของ Pixar ที่ได้รับคำชื่นชมมากมายอย่าง ‘Bao’

‘Turning Red’ เป็นผลงานล่าสุดของ Pixar จะถูกส่งตรงลงบริการสตรีมมิงเลยภายหลังจากเกิดการระบาดของ COVID-19 โดยก่อนหน้านี้ ‘Onward’ ที่เข้าฉายบนสตรีมมิงหลังจากฉายในโรงภาพยตร์เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็ถูกส่งลงบริการสตรีมมิงทันที

Wednesday, January 12, 2022

ลูกโลกทองคำปีนี้ ไม่มีถ่ายทอดสด เหตุดราม่าฮอลลีวูดบอยคอต

งานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ หรือ Golden Globes Awards ครั้งที่ 79 ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2565 (หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 10 มกราคม ของบ้านเรา) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮอลลีวูด (HFPA – Hollywood Foreign Press Association) ได้รับการยืนยันจากสถานี NBC ว่าจะไม่มีการถ่ายทอดสดให้ชมในปีนี้

สาเหตุสำคัญไม่เกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 แต่เป็นเพราะถูกวงการทีวีและภาพยนตร์ของฮอลลีวูดบอยคอต หลังจากสมาคมถูกหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times เปิดโปงเรื่องความไม่โปร่งใส มีเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และขาดการยอมรับความหลากหลาย (Diversity) โดยเฉพาะเรื่องผิวสี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการที่มีสมาชิกบางคนได้รับของขวัญจากสตูดิโอและโปรดิวเซอร์ การขาดสมาชิกองค์กรที่เป็นคนผิวดำ

ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุให้ดารา โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ และบุคคลในวงการฮอลลีวูดพากันปฏิเสธร่วมงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ทางสมาคมยืนยันว่าแม้จะไม่มีการถ่ายทอดสดและการเดินพรมแดง แต่จะมีการจัดงานประกาศผลรางวัลขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะออกมาเป็นรูปแบบไหนนั้นยังไม่มีการเปิดเผย โดยหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลสูงสุดในปีนี้คือ The Power of the Dog และ Belfast ที่ได้เข้าชิงเรื่องละ 7 รางวัล

สนับสนุนข้อมูลโดย รีวิวหนังใหม่ หนังชนโรง

Tuesday, January 11, 2022

เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ จะนำแสดงในหนังใหม่ของ เวส แอนเดอร์สัน

ข่าววงการภาพยนต์ต้นปีก็ดูคึกคักเป็นที่สุด เมื่อ เวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson) หนึ่งในผู้กำกับฝีมือโดดเด่นในยุคนี้ เตรียมจะกำกับ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) ในภาพยนตร์เรื่องใมห่ที่ดัดแปลงจากนิยายคลาสสิกของ โรอาลด์ ดาห์ล (Roald Dahl) เมื่อปี 1977 เรื่อง ‘The Wonderful Story of Henry Sugar and Six More’ แนะนำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น

แอนเดอร์สัน เพิ่งได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากผลการำกับล่าสุดที่เพิ่งผ่านสายตาผู้ชมไปอย่าง ‘The French Dispatch’ และกำลังกำกับ ‘Asteroid City’ อยู่ที่สเปนในขณะนี้ ก่อนหน้านี้ แอนเดอร์สัน ก็เพิ่งเข้าชิงรางวัลออสการ์มาได้จาก ‘The Grand Budapest Hotel’ (2014) และ ‘Isle of Dogs’ (2018) รวมถึงมีผลงานอันโดดเด่นอย่าง ‘The Royal Tenenbaums’ (2001), ‘Fantastic Mr. Fox’ (2009) และ ‘Moonrise Kingdom’ (2012)

ทาง Collider ได้รายงานเสริมว่า ‘The Wonderful Story of Henry Sugar’ นั้น ได้รับการสนับสนุนโดย Netflix และเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง แอนเดอร์สัน กับ คัมเบอร์แบตช์ ที่ฝ่ายหลังนั้นก็ถือได้ว่าเป็นนักแสดงชายชั้นแนวหน้าของยุคนี้เช่นกัน จากผลงานชิงออสการ์อย่าง ‘The Imitation Game’ (2014) และมีโอกาสสูงมากที่จะได้ชิงออสการ์อีกครั้งในปีนี้จาก ‘The Power of the Dog’ โดย คัมเบอร์แบตช์ นั้น จะรับบทเป็น Sugar ตัวละครหลักในนิยายต้นฉบับของ โรอาลด์ ดาห์ล

นอกจากนี้ ‘The Wonderful Story of Henry Sugar’ ก็อาจได้นักแสดงคู่บุญของ แอนเดอร์สัน เช่น เอเดรียน โบรดี (Adrien Brody), บิล เมอร์เรย์ (Bill Murray) และ ทิลดา สวินตัน (Tilda Swinton) มาร่วมงานอีกครั้ง ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดการฉายของ ‘The Wonderful Story of Henry Sugar’ แต่อย่างใด

Sunday, January 9, 2022

จากผู้สร้าง ID4, The Day After Tomorrow สู่หนังมหันตภัยเรื่องใหม่ MOONFALL

กุมภาพันธ์นี้เตรียมรับมือกับหายนะครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้ามายังโลก ในภาพยนตร์แอ็กชันมหันตภัยบล็อกบัสเตอร์เรื่องแรกของปี 2022 กับ MOONFALL วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก ผลงานเรื่องล่าสุด ของผู้กำกับเจ้าพ่อหนังทำลายล้างชื่อก้อง โรแลนด์ เอ็มเมอริช ที่เคยสร้างผลงานสะท้านโลกมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ID4, The Day After Tomorrow และ 2012 ซึ่งล่าสุดได้ปล่อยตัวอย่างเต็ม “เผยวันถึงคราววิบัติล้างโลกครั้งยิ่งใหญ่” สร้างความตื่นตระหนก พร้อมกับกระแสกระหึ่มโซเชียล กับหายนะที่โลกต้องจารึก เมื่อดวงจันทร์หลุดวงโคจร และกำลังจะพุ่งมาถล่มโลกก่อให้เกิดพลังทำลายล้างมหาศาล ทั้งไฟร้อนที่ปะทุทุกพื้นที่ คลื่นยักษ์ถล่ม ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในทุกพื้นที่ที่พร้อมทำให้มนุษยชาติทุกคนถึงวันดับสูญ ความหวังเดียวของโลกคือการปฎิบัติการครั้งสำคัญของนักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องร่วมมือกันกอบกู้โลกในครั้งนี้

ดูหนังใหม่ MOONFALL วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก ได้นักแสดงชื่อดังร่วมภารกิจปกป้องโลก นำโดย ฮัลลี เบอร์รี (X-Men, John Wick: Chapter 3 - Parabellum), แพทริก วิลสัน (The Conjuring, Aquaman) และจอห์น แบรดลีย์ (Game of Thrones) นอกจากนี้ยังได้นักแสดงมาร่วมทีมอย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็น  โดนัลด์ ซูเธอร์แลนด์ (The Hunger Games) , ไมเคิล เพ็นย่า (Ant-Man) และ ชาร์ลี พลัมเมอร์ (All the Money in the World) กับเรื่องราวของทีมมนุษย์อวกาศที่ถูกส่งไปกู้วิกฤติหลังจากที่ดวงจันทร์โดยดาวเคราะห์น้อยชน จนวิถีโคจรมุ่งตรงมายังโลก และทำลายล้างทุกชีวิต เมื่อเวลาของมนุษยชาติเริ่มนับถอยหลัง โจ ฟาวเลอร์ (ฮัลลี เบอร์รี) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NASA และอดีตมนุษย์อวกาศ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดของมวลมนุษย์แต่ทว่ามีแค่เพียง ไบรอัน ฮาร์เปอร์ (แพทริก วิลสัน) มนุษย์อวกาศที่เคยร่วมงานกับเธอ และ เค.ซี. เฮาส์แมน (จอห์น แบรดลีย์) นักทฤษฏีสมคบคิด เท่านั้นที่เชื่อมั่นในตัวเธอ เหล่าคนกล้าต้องเดินทางออกไปยังอวกาศในภารกิจชี้เป็นชี้ตาย เพื่อปกป้องคนพวกเขารักและทุกชีวิตบนโลก

Saturday, January 8, 2022

HIGHLIGHT CONTENT รู้จักผู้ให้กำเนิดมินเนี่ยน 'อิลลูมิเนชั่น' สตูดิโออนิเมชั่นสายฮา ครองใจคนทั้งโลก

อิลลูมิเนชัน เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งก่อตั้งโดยคริส เมเลแดนดรี้ในปี 2007 เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์อนิเมชันระดับแนวหน้าของวงการบันเทิง  อิลลูมิเนชันเป็นพันธมิตรด้านการสนับสนุนเงินทุนและจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เป็นผู้สร้างแฟรนไชส์ภาพยนตร์เรื่อง Despicable Me ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ซึ่งรวมถึง Minions ภาพยนตร์อนิเมชันที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับสอง และ Despicable Me 2 ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดสาขาภาพยนตร์อนิเมชันยอดเยี่ยมแห่งปี 2013  ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง

โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์ของอิลลูมิเนชัน ที่รวมถึงภาพยนตร์ปี 2011 เรื่อง Hop และภาพยนตร์ปี 2012 เรื่อง Dr. Seuss’ The Lorax ทำรายได้ไปกว่า 3.2 พันล้านเหรียญทั่วโลก และพากย์เสียงโดยนักแสดงที่โด่งดังที่สุดของโลกหลายคน ผลงานภาพยนตร์ ในปีที่ผ่านมาอิลลูมิเนชั่นมีผลงาน The Secret Life of Pets และ Sing ที่นำแสดงโดยแมทธิว แม็คคอนนาเฮย์, รีส วิทเธอร์สปูน, เซ็ธ แม็คฟาร์เลน, สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน, จอห์น ซี. ไรลีย์, ทารอน อีเกอร์ตันและทอรี เคลลี  

ในปีนี้ อิลลูมิเนชั่นเตรียมนำความฮากลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคต่อเรื่อง Sing 2 ร้องจริงเสียงจริง 2 ภาคใหม่ของแฟรนไชส์แอนิเมชั่นยอดฮิตของอิลลูมิเนชั่น ที่จะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความฝันอันยิ่งใหญ่และเพลงฮิตที่จะทำให้คุณประทับใจ ในขณะที่หมีโคอาล่าที่สามารถทำได้ทุกสิ่ง บัสเตอร์มูน  และนักแสดงสัตว์ทั้งหมดของเขา เตรียมเปิดการแสดงบนเวทีสุดตระการตา ในเมืองหลวงของโลกที่เต็มไปด้วยความบันเทิงอันระยิบระยับ แต่มีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้น นั่นคือ พวกเขาต้องเกลี้ยกล่อมร็อคสตาร์ผู้อยู่อย่างสันโดษที่สุดในโลก ให้มาร่วมงานกับพวกเขา โดยผู้ให้เสียงพากย์ร็อคสตาร์คือ โบโน่ ไอคอนเพลงระดับโลก นักร้องนำจากวงร็อคระดับตำนานอย่าง U2 ซึ่งเป็นการให้เสียงพากย์ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเป็นครั้งแรกด้วย 

Friday, January 7, 2022

ทำการบ้านก่อนดู!! ย้อนภาคแรก SING รวมสัตว์ร้องเพลงสุดน่ารัก ก่อนพบความฮาในภาค 2

 ทำการบ้านก่อนดู!! ย้อนภาคแรก SING  

รวมสัตว์ร้องเพลงสุดน่ารัก ก่อนพบความฮาในภาค 2  

ย้อนกลับไปยังปี 2016 แอนิเมชั่น Sing หนังรวมสรรพสัตว์มาตามหาฝันร้องเพลงคล้ายๆเวทีการประกวด The Voice ซึ่งตัวหนังอัดแน่นไปด้วยความสุข ความฮาและคติสอนใจ เป็นแอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ดูได้ทั้งครอบครัวเพิ่มความสุขส่งท้ายปี การันตีผลงานคุณภาพจากทีมผู้สร้าง the secret life of pets และ Dispicable Me  รีวิวหนังใหม่ หนังชนโรง

"...ความฝันเริ่มต้นเมื่อม่านในโรงละครเปิดออกทุกบทบาทก็เริ่มเล่นไปตามบท..."

Sing เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ บัสเตอร์ มูน โคอาล่าเจ้าของโรงละครที่มีความฝันอยากทำโชว์ให้ยิ่งใหญ่แต่สุดท้ายก็ต้องประสบปัญหาทางธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่าจนโรงละครเกือบจะล้มละลาย ทางเดียวที่จะรอดพ้นจากวิกฤตนี้คือ การสร้างโชว์ที่จะช่วยเรียกคนเข้าโรงละครอีกครั้ง ซึ่งบัสเตอร์ มูนได้เกิดไอเดีย จัดโชว์ประกวดร้องเพลงที่มีเงินรางวัลแค่ 1000 เหรียญ แต่เรื่องราวดันพลิกผันเมื่อตัวเลขเงินรางวัลผิดพลาดกลายเป็นแสนเหรียญทำให้สัตว์ส่วนใหญ่ในเมืองแห่กันมาสมัครร้องเพลง ความฮาจึงบังเกิดขึ้น

ไม่ใช่เฉพาะบนเวทีที่มีเรื่องราว แต่ Sing ยังเจาะไปที่ชีวิตของสัตว์แต่ละตัวอีกด้วย เช่น แม่หมูที่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกมากกว่า 20 ตัว กอริลล่ายักษ์ที่มีครอบครัวเป็นผู้ร้าย หนูตัวจี๊ดผู้เย่อหยิ่งคิดว่าตัวเองมีความสามารถเหนือใคร และ ช้างตัวใหญ่แต่ใจปลาซิวเธอร้องเพลงสะกดทุกคนในบ้านได้แต่ไม่กล้าที่จะร้องเพลงบนเวที การตามฝันของสัตว์แต่ละตัว สร้างรอยยิ้มให้กับคนดูตลอดทั้งเรื่อง 

จุดหนึ่งที่ค่อนข้างชื่นชอบคือการเล่นกับประเด็นการเดินตามความฝันที่มนุษย์ทุกคนต้องมีแต่บางทีด้วยข้อจำกัดบางอย่างทางสังคมไม่อาจทำให้เราได้ทำความฝันนั้นให้เป็นจริง เหมือนกรณีของ โรซิต้า แม่หมูที่หลังจากชีวิตแต่งงานของเธอต้องทิ้งความฝันแล้วกลายมาเป็นแม่บ้านดูแลสามีและลูกๆ ทำงานบ้านจนเหนื่อยเกินไปที่จะไปจับไมค์ร้องเพลงทั้งที่เธอมีความใฝ่ฝันอยู่เต็มเปี่ยม Sing ยังคอยส่งสารย้ำเตือนเราว่า การไม่หลงลืมความฝันเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต นอกจากนี้ยังมีประเด็นการก้าวข้ามความกลัวในใจของเราอีกด้วย 

ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ SING คือการใช้เพลงประกอบเรื่องราว ล้วนแต่เป็นเพลงสากลฮิตๆขนมาแบทเทิลกันสุดพลัง ผ่านเสียงพากย์และเสียงร้องของดาราชั้นนำ เช่น เซ็ธ แม็คฟาร์เลน,ทอรี เคลลี,รีส วิทเธอร์สปูน ,ทารอน อีเกอร์ตัน,สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน มาปล่อยมุขและพลังเสียงสะกดคนดูได้อย่างดี การออกแบบคาแร็คเตอร์ของสัตว์แต่ละตัวมีทั้งบ้า น่ารัก แบ๊ว และเพี้ยนสุดๆ ถือว่าคงคอนเซปต์ของค่ายอิลลูมิเนชั่น เอนเตอร์เทนเมนต์ที่พักหลังๆ ทำให้เราหลงรักตัวละครไปได้หลายตัวเลย 

โดยในภาค 2  ตัวละครที่คุณประทับใจยังอยู่กันครบทั้ง ทอริ เคลลี่ ให้เสียงพากย์ มีนา ช้างขี้อาย,สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน ให้เสียงพากย์ แอช เม่นขาร็อค,รีส วิทเธอร์สปูน ให้เสียงพากย์ โรสิตา แม่หมูจอมโหด,แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ กลับมาให้เสียงพากย์ บัสเตอร์ มูน โคอาล่าที่ทำได้ทุกอย่าง,ทารอน เอเจอร์ตัน ให้เสียงพากย์ จอห์นนี่ กอริลล่าผู้มีความกระตือรือร้น,โบโน่ นักร้องนำจาก U2 วงร็อคชื่อดังระดับตำนาน ให้เสียงพากย์ คัลโลเวย์  Sing 2 เหล่าสรรพสัตว์ต้องออกเดินทางเข้าสู่เมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยความฝันของนักแสดง นักร้อง นักเต้น รวมถึงการนำศิลปินระดับตำนานที่ประกาศวางไมค์ไปแล้วกลับมาขึ้นโชว์อีกครั้งให้ได้ ความฝันอันยิ่งใหญ่ เงินรางวัลที่สูงขึ้น และการแสดงสุดเลิศ ทุกอย่างเริ่มต้นที่นี่  


Thursday, January 6, 2022

Spider-Man: No Way Home ติดอันดับ 10 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของสหรัฐฯ ทำเงินกว่า 1,370 ล้านเหรียญ

มาแรงมากที่สุดทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ภาพยนตร์ทุนสูง 200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 6,600 ล้านบาท ได้ติดอันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยเก็บรายได้เพิ่มไปอีก 52.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,750 ล้านบาท แนะนำหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น

นั่นส่งผลทำให้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ทำรายได้รวมในสหรัฐฯ ไปสูงถึง 609.9 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 20,300 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในสหรัฐฯ สูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 10 แซงหน้า ‘Incredibles 2’ (2018) ที่ทำไว้ 608.6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 20,200 ล้านบาท

ในส่วนของรายได้ทั่วโลกนั้นพุ่งสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,370 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 45,600 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 12 แซงหน้า ‘Black Panther’ (2018) ที่ทำไว้ 1,350 ล้านเหรียญ หรือประมาณ และ ‘Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2’ (2011) ที่ทำไว้ 1,340 ล้านเหรียญ อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ‘Spider-Man: No Way Home’ สามารถครองรายได้ทั้งหมดของบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ในปี 2021 ที่ผ่านมา มากถึง 12% ของรายได้ทั้งหมดเลยทีเดียว

Wednesday, January 5, 2022

‘Mortal Kombat’ เป็นภาพยนตร์ที่มียอดสตรีมเปิดตัวสูงสุดบน HBO Max

ด้วยความที่สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในปี 2021 ยังคงรุนแรงอยู่ ทำให้สตูดิโอ Warner Bros. ตัดสินใจนำภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องใหม่ของตนเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่สหรัฐฯ พร้อมกับบนบริการสตรีมมิง HBO Max (ที่ Warner Bros. เป็นเจ้าของ) พร้อมกัน เพื่อให้ผู้ชมที่ไม่ต้องการออกไปชมภาพยนตร์นอกบ้านสามารถรับชมภาพยนตร์ใหม่ที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย  ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง

ทั้งนี้ จากรายงานของ Business Insider ที่อ้างอิงข้อมูลจาก SambaTV ระบุว่า ‘Mortal Kombat’ เป็นภาพยนตร์ที่การสตรีมเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกบน HBO Max สูงสุด อยู่ที่ 3.8 ล้านครัวเรือน ใน 4 วันแรก รองลงมาคือ ‘Godzilla vs. Kong’ ที่มียอดชม 3.6 ล้านครัวเรือน ใน 5 วันแรก, ‘The Suicide Squad’ มียอดชมที่ 2.8 ล้านครัวเรือน

สำหรับภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟฟอร์มยักษ์อย่าง ‘The Matrix Resurrection’ ก็มียอดชม 2.8 ล้านครัวเรือน ใน 5 วันแรก, ‘Space Jam: A New Legacy’ มียอดชม 2.1 ล้านครัวเรือน และภาพยนตร์ไซไฟระดับมหากาพย์อย่าง ‘Dune’ ก็มียอดการชมสุดสัปดาห์แรกอยู่ที่ 1.9 ล้านครัวเรือน 

ส่วนภาพยนตร์ที่มยอดการชมสุดสัปดาห์แรกน้อยที่สุดก็คือ ‘Judas and the Black Messiah’ ที่มีเพียง 653,000 ครัวเรือน นับว่าเป็นการตลาดที่น่าสนใจมากสำหรับ Warner Bros. ที่นำภาพยนตร์ใหม่ไปฉายบนบริการ HBO Max พร้อมกับในโรงภาพยตร์ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า Warner Bros. จะยังคงนโยบายเดิมต่อไปในปี 2022 นี้ด้วยหรือไม่


Tuesday, January 4, 2022

"SPENCER สเปนเซอร์" และหน้าประวัติศาสตร์ของ 'ไดอาน่า' ที่โลกไม่เคยรู้

สิ้นสุดการรอคอย "Spencer สเปนเซอร์" ที่สุดแห่งความละเมียดละไมไปกับเรื่องราวของ 'เจ้าหญิงไดอาน่า' จากปรากฏการณ์กวาดเสียงชื่นชมอย่างท่วมท้นที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 78 ประจำปี 2021 พร้อมบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดสู่ตัวเต็งผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ "คริสเตน สจ๊วต"

เรื่องราวช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3 วันของสตรีผู้หนึ่งที่ชีวิตเคยเริ่มต้นเหมือนเทพนิยายต้องจบลงด้วยความจริงที่แสนเจ็บช้ำ ไดอาน่า (คริสเตน สจ๊วต) เจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่ในเวลานั้นกำลังเกิดความสับสนในชีวิต ทั้งการตัดสินใจที่จะแยกทางจากพระสวามี เจ้าชายชาร์ลส์ (แจ็ค ฟาร์ธิง) มกุฎราชกุมาร และแสดงความประสงค์ที่จะพาพระโอรสทั้ง 2 ไปเลี้ยงดูให้มีชีวิตเฉกเช่นเดียวกับเด็กสามัญชนทั่วไป เพื่อไม่ให้ถูกบีบบังคับให้ตกอยู่ภายใต้ระบบสถาบันกษัตริย์ คือช่วงเวลาอันยากลำบากที่ประชาชนไม่เคยรับรู้ว่าไดอาน่ารู้สึกอย่างไร รวมถึงการต้องตกเป็นเป้าสายตาของประชาชนทั้งประเทศและทั่วโลกที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล

อย่าคิดว่าคุณรู้จัก "เธอ" ดีพอ ถ้ายังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เตรียมพบกับเรื่องราวที่จะตราตรึงหัวใจคุณยิ่งกว่าเดิม ผลงานวิจิตรระดับมาสเตอร์พีซครั้งใหม่จากผู้กำกับ "พาโบล ลาร์เรน" แห่ง Jackie (2016) ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งลงไปถึงห้วงภวังค์ของเจ้าหญิงแห่งปวงชนให้ลึกซึ้งยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ รับชมเต็มเรื่อง ดูที่นี่


Monday, January 3, 2022

ดเวย์น จอห์นสัน ยืนยัน! ไม่กลับมาร่วมทีมแฟรนไชส์ ‘Fast And Furious’ แน่นอน

ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) ได้ออกมาตอบเกี่ยวกับประเด็นที่ วิน ดีเซล (Vin Diesel) ได้โพสต์ในอินสตาแกรมเมื่อเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมาว่าต้องการให้ จอห์นสัน กลับมาในภาคที่ 10 ของแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ จอห์นสัน ได้เข้าร่วมแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ครั้งแรกใน ‘Fast Five’ (2011) เรื่อยมาจนถึง ‘The Fate of the Furious’ (2017) รวมเป็นจำนวน 4 ภาค และแสดงนำในภาคแยกอย่าง ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw’ (2019) โดย จอห์นสัน และ ดีเซล มีประเด็นความขัดแย้งที่ชัดเจนมาตั้งแต่การถ่ายทำ ‘The Fate of the Furious’ เมื่อปี 2016


จอห์นสัน ได้ตอบประเด็นข้างต้นในการให้สัมภาษณ์ฏกับสำนักข่าว CNN ว่า “เซอร์ไพรส์มาก” “เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาตอนที่ วิน กับผม ได้ติดต่อกัน ผมได้บอกเขาไปตรง ๆ อย่างเป็นส่วนตัวว่า ผมจะไม่กลับไปยังแฟรนไชส์นี้แล้ว ผมยังคงสนับสนุนเหล่านักแสดงและแฟรนไชส์นี้ให้ประสบความสำเร็จเรื่อยไป แต่มันไม่มีโอกาสที่ผมจะกลับไปแล้ว ผมได้บอกกับหุ้นส่วนที่ Universal เป็นการส่วนตัวแล้วด้วยเช่นกัน และพวกเขาก็เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดี”

จอห์สัน ได้กล่าวเสริมว่า “โพสต์ของ วิน ก่อนหน้านี้เป็นตัวอย่างของความพยายามที่ไม่เหมาะสมของเขา เขาได้นำลูก ๆ และการเสียชีวิตของ พอล วอล์กเกอร์ (Paul Walker) มาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ควรไปยุ่งกับพวกเขาเลย เราคุยกันเรื่องนี้มาตั้งหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว จุดประสงค์หลักของผมคือการจบเรื่องราวของผมในแฟรนไชส์อันน่าทึ่งนี้ไปอย่างภาคภูมิ จึงไม่มีประเด็นอะไรที่จะต้องมากวนน้ำให้ขุ่น”

‘Fast and Furious’ ภาคที่ 10 นั้น จะยังคงได้ จัสติน ลิน (Justin Lin) กลับมากำกับเช่นเดิม ซึ่งจะเป็นบทแรกของการปิดฉากแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ที่จะสมบูรณ์ในภาคที่ 11 ‘Fast and Furious 10’ มีกำหนดฉายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2023 รับชมตัวอย่างเต็ม ดูที่นี่คลิ๊ก





Sunday, January 2, 2022

กีเยร์โม เดล โตโร เผยรายละเอียดการสร้างภาพยนตร์ Justice League Dark

กีเยร์โม เดล โตโร (Guillermo Del Toro) ผู้กำกับรางวัลออสการ์ ได้ให้สัมภาษณ์แก่พอดแคสต์ของเว็บไซต์ Comicbookmovie.com โดยได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดัดแปลงคอมิก ‘Justice League Dark’ เป็นภาพยนตร์ ซึ่งจะประกอบไปด้ยต้ัวละคร Zatanna, Deadman, Swamp Thing, John Constantine และ Kloarian the Witch Boy และกล่าวจะตัวเขาเองก็เป็นแฟน DC จึงอยากจะสร้างออกมาในโทนที่แฟน ๆ DC คาดหวัง  รีวิวหนังใหม่

“ผมได้ลองเปิดคอมิก Constantine ของ อลัน มัวร์ (Alan Moore) และเอาไดนามิกของตัวละครจาก Swamp Thing และ Deadman มาผสานเข้าด้วยกันดูว่าจะแสดงถึงจิตวาญญาณตัวละครได้มากเพียงไร และหนึ่งในตัวละครที่ผมชื่นชอบมากที่สุดก็คือ Zatanna ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ทรงพลังและน่าสนใจที่สุด ซึ่งผมได้พยายามนำมารวมกับเรื่องราวของ Klarion the Witch Boy ด้วย”

‘Justice League Dark’ เป็นคอมิกใหม่เมื่อปี 2011 ซึ่นำทีมโดยตัวละครอย่าง Zatanna, John Constantine, Deadman, Etrigan the Demon, Madame Xanadu, Shade the Changing Man และ Swamp Thing ซึ่งเป็นการผลักดันจักรวาลเรื่องราวเหนือธรรมชาติของ DC Comics ได้อย่างน่าสนใจ ต่อมาในปี 2012 ผู้กำกับ กีเยร์โม เดล โตโร ก็ได้เข้าเจรจาเพื่อดัดแปลง ‘Justice League’ ขึ้นจอใหญ่ โดยเขาได้พัฒนาโปรเจกต์นี้มาอย่างต่อเนื่องภายใต้ชื่อ Dark Universe ก่อนที่ Universal ตัดหน้าเปิดตัวชื่อ Dark Universe สำหรับแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่นำตัวละครสยองขวัญคลาสสิกมาขึ้นจออีกครั้งเมื่อปี 2015 (แต่ไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด)

อย่างไรก็ดี โปรเจกต์นี้ก็ยังคนงได้รับการพัฒนาต่อไปโดย Warner Bros. แต่ก็ประสบปัญหาผู้กำกับ ดั๊ก ไลแมน (Doug Liman) จาก ‘Bourne Identity’ และ ‘Edge of Tomorrow’ ถอนตัวออกจากโปรเจกต์ไปด้วย สำหรับภาพยนตร์ ‘Justice League Dark’ นั้น ต้องติดตามกันต่อไปว่า เดล โตโร จะลงมากำกับภาพยนตร์เต็มตัวเลยหรือไม่ ซึ่งเขาก็เคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรอย่าง ‘Blade II’ และ ‘Hellboy’ ทั้ง 2 ภาค 

ออสการ์ 2023: “มิเชล โหย่ว” ผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิง

มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับเวทีออสการ์ ด้วยการเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวที...