Tuesday, March 14, 2023

ออสการ์ 2023: “มิเชล โหย่ว” ผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิง

มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับเวทีออสการ์ ด้วยการเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวทีออสการ์ 2023 ข่าวหนังใหม่ มิเชล โหย่ว เป็นนักแสดงชาวมาเลเซีย และเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของออสการ์ที่คว้ารางวัลใหญ่อย่างสาขา Best Actress in a Leading Role หรือนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once ในบทของผู้อพยพเชื้อสายจีน-อเมริกัน เจ้าของร้านซักรีดที่ต้องทำภารกิจทะลุมิติเพื่อช่วยกู้โลก


มิเชล โหย่ว กล่าวขณะขึ้นเวทีรับรางวัลออสการ์ว่า “ถึงหนุ่มสาวตัวเล็กๆ ที่หน้าตาเหมือนฉันและกำลังมองฉันอยู่ในค่ำคืนนี้ นี่คือสัญญาณแห่งความหวังและความเป็นไปได้ นี่คือหลักฐานว่าความฝันเป็นจริงได้ และถึงสาวๆ ทั้งหลาย อย่าให้ใครมาบอกว่าหมดช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของคุณไปแล้ว อย่าได้ยอมแพ้เด็ดขาด

“ฉันขอมอบรางวัลนี้ให้กับแม่ของฉัน และเหล่าแม่ๆ ทุกคนบนโลกใบนี้ เพราะทุกคนคือซูเปอร์ฮีโร่ และถ้าไม่มีพวกเขา ก็คงไม่มีใครมาอยู่ในงานในค่ำคืนนี้

“แม่ของฉันอายุ 84 ปีแล้ว และฉันจะเอารางวัลนี้ไปให้เธอที่บ้าน เธอกำลังดูถ่ายทอดสดอยู่ที่มาเลเซีย ‘หนูจะเอารางวัลนี้ไปให้แม่ที่บ้านนะ’

“ขอบคุณ The Academy เรากำลังสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่กันค่ะ”

มิเชล โหย่ว เกิดที่เมือง Ipoh เริ่มต้นงานแสดงจากการเล่นภาพยนตร์แอคชั่นของฮ่องกง ก่อนจะเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในวงการฮอลลีวูดอย่าง Supercop, Tomorrow Never Dies, Crouching Tiger, Hidden Dragon และ Crazy Rich Asians และในที่สุด มิเชล โหย่ว ในวัย 60 ปี ก็มีชื่อเข้าชิงและคว้ารางวัลออสการ์ 2023 สาขา Best Actress in a Leading Role หรือนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ไซไฟ Everything Everywhere All at Once โดยเธอเป็นหนึ่งในทีม Executive Producer ด้วย

Friday, March 3, 2023

Liam Neeson ยอมรับว่าไม่ได้ชอบบทสุดคลาสสิกจากหนังเรื่อง Taken เท่าไร

Liam Neeson ยอมรับว่าในตอนแรกไม่ได้ชอบบทที่เป็นประโยคสนทนากับคนร้ายผ่านทางโทรศัพท์ ที่เป็นบทสุดคลาสสิกและเป็นภาพจำของคอหนังหลายๆ คนจากเรื่อง Taken รีวิวหนังคุณภาพ

ประโยค “I do have are a very particular set of skills.” (ฉันมีทักษะที่พิเศษมาก) และ “I will look for you, I will find you, and I will kill you.” (ฉันจะหาแกให้เจอ และฉันจะฆ่าแก) ที่เป็นบทจำสุดคลาสสิกจากหนังเรื่อง Taken ของ Liam Neeson เป็นประโยคที่โด่งดังและถูกนำไปล้อเลียนตั้งแต่หนังออกฉายในปี 2008 จนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนจำกันได้ โดยเป็นฉากที่เขาคุยกับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป

Liam Neeson เคยให้สัมภาษณ์หลายต่อหลายครั้งว่า เขาไม่เคยคิดเลยว่าภาพยนตร์ Taken จะได้รับความนิยมและได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ อย่างมาก จนกระทั่งมีโอกาสได้สร้างต่ออีกหลายต่อหลายภาค Liam Neeson ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vanity Fair ว่าบทพูดในหนัง Taken ของเขานั้น “ผมก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวอยู่นะ แต่ผมว่าประโยคมันดูเฉยสะบัด ธรรมดาซ้ำซากจำเจมาก ตอนที่พูดก็ไม่ได้อินเท่าไร แต่ก็ดีนะที่ทุกคนเห็นว่ามันเท่ดี”

นอกจากนี้ Liam Neeson ยังเคยให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly ในปี 2020 อีกว่า ในตอนที่หนัง Taken ออกฉาย เขาคิดว่ามันจะเป็นหนังฮอลลีวูดที่ไม่ประสบความสำเร็จอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังยอมรับว่าเขาสนุกกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ และรู้สึกซาบซึ้งกับการได้รับโอกาสใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต หลังจากที่หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเกินคาดมากขนาดนี้

“ผมไม่คิดเลยว่าหลังจากนั้นผมจะได้รับการเสนอบทหนังเรื่องอื่นๆ รวมถึงหนังแอคชั่นอื่นๆ อีกเพียบ แล้วในบทหนังเคยเขียนเอาไว้ว่า ‘ตัวเอก อายุ 37 ปี’ แต่ถูกขีดฆ่าทิ้งแล้วเปลี่ยนเป็น ‘อายุ 40-50 ปลายๆ’ นั่นทำให้ผมรู้สึกถึงการได้รับอภิสิทธิ์ แต่ก็แอบรู้สึกผิดเบาๆ เพราะผมต้องถ่ายทำฉากต่อสู้กับคนที่อายุน้อยกว่าตั้งผมครึ่งหนึ่ง แล้วผมแอบหยุดขำไม่ได้”

Wednesday, March 1, 2023

สุดปัง !! รินะ ซาวายามะ จากป๊อปสตาร์สู่จักรวาลนักฆ่า JOHN WICK: CHAPTER 4

หลังจากที่ได้มีการเปิดภาพนักแสดงหลักที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนักฆ่าจากทั่วโลกผ่านตัวอย่างเต็มสุดเดือดกันไปแล้ว เรียกได้ว่า ใน John Wick: Chapter 4 นี้ เต็มไปด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่ที่น่าสนใจ แนะนำซีรี่ย์ดัง ร่วมขนทัพกันมาจัดเต็มความระห่ำให้กับเรื่องราวในภาคนี้กันอย่างเนืองแน่น โดยหนึ่งในสมาชิกของทีมนักฆ่าที่น่าจับตามองอย่างมากอย่าง อาคิระ ซึ่งรับบทโดย รินะ ซาวายามะ ป๊อบสตาร์สาวสัญชาติอังกฤษ ญี่ปุ่น ในบทบาทนี้เป็นผลงานการแสดงครั้งแรกของเธอ จึงเป็นที่น่าสนใจว่า รินะ ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ถึงได้ถูกเลือกเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญร่วมจักรวาลนักฆ่าในครั้งนี้

รินะ ซาวายามะ นักร้อง นักแต่งเพลง และนางแบบสัญชาติญี่ปุ่น ที่ได้ย้ายจากเมือง นีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น และมาเติบโตที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ด้วยวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่นที่เธอได้รับจากบ้านเกิด รวมเข้ากับการเติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบตะวันตก จึงทำให้ รินะ มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจากทั้งสองฝั่งและถูกแสดงออกมาในความเป็นตัวตนของเธออย่างมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในช่วงแรกของการปรับตัวเข้าสู่สภาพแวดล้อมใหม่ๆ นั้นจะเป็นปัญหาสำหรับเธออยู่พอประมาณ แต่ในที่สุด ดนตรีและเสียงเพลงก็ได้กลายมาเป็นสื่อกลางที่ช่วยเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้คนรอบข้าง โดยที่เธอได้เริ่มก่อตั้งวงฮิปฮอปร่วมกับเพื่อนๆ ตั้งแต่อายุสิบหกปี ก่อนที่จะเธอจะเข้าเรียนต่อในด้านรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และจิตวิทยา ที่ Magdalene College ในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

ในปี 2013 รินะ ได้ปล่อยผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะของศิลปินเดี่ยวเป็นครั้งแรก นั่นก็คือเพลง Sleeping in Waking ตามมาด้วย Tunnel Version และ Where U Are ช่วงปี 2016 โดยผลงานเพลงของเธอที่ปล่อยออกมา ได้มีการพูดถึงเรื่องราวของการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอีกโลกหนึ่งจนมากเกินกลายเป็นการเสพติด พร้อมเอ็มวีประกอบที่มีความเป็นแฟชั่นและสีสันอันจัดจ้านสะดุดตา ซึ่งผลงานที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเธอนั้นก็ได้ทำให้เธอติดโผรายชื่อ หนึ่งใน 13 ศิลปินที่น่าจับตามองในปี 2017 โดยนิตยสารดนตรี The Fader ก่อนที่เธอจะได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมกับทางค่าย Dirty Hit และได้ออกอัลบั้มเต็ม Sawayama เป็นครั้งแรกในปี 2020 ก่อนที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BRIT Awards สาขาดาวรุ่ง (Rising Star) ในปี 2021 และศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best New Artist) ในปี 2023


นอกจากความสามารถทางด้านผลงานเพลงแล้ว ความเป็นเอเชียและตัวตนของรินะ ก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่ทำให้เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวงการแฟชั่น ด้วยสไตล์และหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้รินะได้เซ็นสัญญาร่วมงานกับโมเดลลิ่งชื่อดังของโลกอย่าง Elite Model Management ไปในที่สุด และเธอยังเคยได้รับตำแหน่งผู้หญิงแห่งปีจากนิตยสาร Vogue ญี่ปุ่นในปี 2019 จากเรื่องราวในชีวิตของเธอที่ได้สร้างแรงบันดาลใจและความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านของการยอมรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเพื่อสร้างพลังให้กับเพื่อนหญิงด้วยกันเอง

มาร่วมติดตามเพื่อพิสูจน์ความสามารถในเส้นทางแจ้งเกิดเส้นใหม่ของ รินะ ซาวายามะ กับบทบาท อาคิระ นักฆ่าสาวชาวญี่ปุ่นผู้มาพร้อมกับธนูพิฆาต ที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความเดือดระห่ำกับ John Wick: Chapter 4 ครั้งนี้ 22 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

Monday, February 27, 2023

จุดจบ หรือ จุดเปลี่ยน John Wick: Chapter 4 การกลับมาของแฟรนไชส์-แอ็กชันอันดับ 1

การกลับมาของแฟรนไชส์-แอ็กชันอันดับ 1 จากกระแสฟีเวอร์ยาวนานกว่า 9 ปี ยกระดับโลกนักฆ่า สู่ผลงาน The Next Level ที่อาจเป็น ‘จุดจบ’ หรือ ‘จุดเปลี่ยน’ ของสงครามใน John Wick: Chapter 4 มันส์ก่อนอเมริกา 22 มีนาคมนี้ ข่าวหนังใหม่

เตรียมพบกับการกลับมาของสุดยอดภาพยนตร์แอกชันอันดับ 1 ที่ครองใจแฟนคอหนังทั่วโลกยาวนานกว่า 9 ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นทั้งคำวิจารณ์และรายได้ Box Office จนกลายเป็นต้นแบบของหนังแอกชันหลายต่อหลายเรื่องตลอดเกือบทศวรรษ และในปี 2023 ถึงเวลานับถอยหลังสู่สงครามนักฆ่าครั้งใหม่ ขยายขอบเขตความมันส์ พร้อมอัดแน่นฉากแอกชั่นจัดเต็มกว่าทุกภาค การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับแฟรนไชส์สู่ The Next Level กับภาพยนตร์ที่ทั้งโลกรอคอย John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4

สำหรับในภาคนี้ John Wick ยังคงได้นักแสดงระดับเทพกลับมาเดือดระห่ำจักรวาลนักฆ่า นำทีมโดยแอ็กชันสตาร์แห่งยุค คีอานูฟ รีฟส์ (จอห์น วิค), เอียน แมคเชน (วินสตัน) และ ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น (บาวเวอรี คิง) และยังระดมทีมนักแสดงมากฝีมือชุดใหม่จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นแอ็กชันสตาร์ชั้นครู ดอนนี่ เยน จาก IP MAN และ Rogue One, บิล สการ์สการ์ด จาก IT, ฮิโรยูกิ ซานาดะ จาก The Wolverine และ Bullet Train ปิดท้ายด้วยแอ็กชันสตาร์มาแรง ได้รับตำแหน่งผู้หญิงแห่งปีจาก Vogue Japan รินะ ซาวายามะ

John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4 บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจาก จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ถูกนักฆ่าทั่วโลกตามฆ่า เขาจึงต้องกลับมาเผชิญหน้า วินสตัน (เอียน แมคเชน) และ บาวเวอริ่ง คิง (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) เพื่อหาหนทางปลดปล่อยตัวเองสู่อิสรภาพ แต่เมื่อเส้นทางนักฆ่าของเขายังไม่จบ จอห์นต้องโคจรมาพบกับศัตรูคนใหม่สุดอำมหิต มาร์กีส์ เดอ การมองต์ (บิล สการ์สการ์ด) ขุนนางจากสภาสูงที่มาพร้อมกับเดิมพันที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญบนเส้นทางนักฆ่าของจอห์น วิค โดยที่ชัยชนะในครั้งนี้อาจพาเขาเข้าใกล้สภาสูงมากที่สุด แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายเมื่อจอห์นกลับต้องมาต่อสู้กับสหายเก่าอย่าง เคน (ดอนนี เยน) และ ชิมาสึ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) คู่ปรับที่ฝีมือสูสี ที่ต้องให้ความตายเป็นตัวตัดสิน

สงครามนักฆ่าครั้งนี้จะต้องกลายเป็นจุดจบหรือจุดเปลี่ยน แฟนๆ ชาวไทยจะได้ร่วมเป็นพยานมหากาพย์แค้นครั้งนี้ไปพร้อมกับผู้ชมทั้งโลก นับถอยหลังสู่ John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4 - 23 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

Thursday, February 23, 2023

ผมจะกลับมาแน่! Jeremy Renner เผยเทคโนโลยีการบำบัดที่เขาใช้หลังจากเกิดอุบัติเหตุ

หลายคนเป็นห่วงอาการของ Jeremy Renner ว่าจะสามารถกลับมาแข็งแรงได้อีกเมื่อไหร่ และจะกระทบต่อผลงานที่ถ่ายค้างไว้หรือไม่ ล่าสุดเขาได้เปิดเผยเทคโนโลยีที่ช่วยในการฟื้นฟูที่ทันสมัย ซึ่งเขาใช้ในการฟื้นตัวจากอุบัติเหตุรถกวาดหิมะที่เขาประสบเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เขาโพสต์คลิปใน Instagram ว่าเทคโนโลยีอันนี้มันเจ๋งมากๆ และช่วยให้แฟนๆ หายห่วงเนื่องจากคลิปถูกโพสต์ประกอบกับเพลงสนุกๆอย่าง Lady Madonna ของวง The Beatles ดูหนังใหม่ 2023

ในคลิปจะเห็นเครื่องมืออันทันสมัยนี้ติดอยู่กับขาขวาของเขา โดยใช้ตัวดูดยึดติดกับขา และดูเหมือนว่าเขากำลังเขย่าขาขณะที่มันทำงาน ไม่ปรากฏบาดแผลให้เห็นบนขาของเขาแต่อย่างใด เขาได้รับการดูแลอย่างดีจากคุณแม่และน้องสาวของเขาเอง ซึ่งการรักษาและฟื้นฟูยังคงต้องใช้เวลาพอสมควร มีการคาดการณ์ว่าอาจใช้ระยะเวลากว่า 1-2 ปี ซึ่งเราก็คงได้แต่ภาวนาว่าอุปกรณ์อันทันสมัยที่ Jeremy Renner ได้ใช้อยู่นี้จะสามารถทำให้เขากลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันแรกของปี 2023 มีรายงานว่า Renner ประสบอุบัติเหตุขณะกำลังขับรถไถหิมะใกล้บ้านของเขาในเมือง Reno รัฐเนวาดา เขาถูกส่งตัวทางเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หลังจากเหตุการณ์นั้น ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้เผยว่า รถ Snowcat น้ำหนัก 14,000 ปอนด์ของเขาชนเข้าที่ด้านขวาของหน้าอกของเขา และยังส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะ

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่า Renner ได้รับบาดเจ็บขณะพยายามช่วยเพื่อนบ้านที่ติดอยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ นั่นแปลว่าเขาเป็นฮีโร่ทั้งในจอและนอกจอจริงๆ โดย Jeremy Renner นั้นคือผู้รับบท Clint Barton หรือ Hawkeye ในหนัง Marvel Cinematic Universe และยังมีหนังและซีรีส์อีกบางเรื่องที่เขายังถ่ายทำค้างอยู่

Tuesday, February 21, 2023

ขอสู้อีกครั้ง Hellboy ฉบับ Reboot ครั้งที่สาม โดยผู้กำกับ Crank

แม้ว่า Hellboy ฉบับปี 2019 ที่รับบทโดย David Harbour จะไม่ประสบความสำเร็จในแบบที่ผู้กำกับ Guillermo Del Toro กับ Ron Perlman ผู้รับบท Hellboy คนเก่าเคยทำไว้ แต่ทางต้นสังกัด Millennium Media ผู้ถือครองลิขสิทธิ์เรื่องนี้ก็ยังไม่ถอดใจ โดยล่าสุดได้ออกมาประกาศเตรียมสร้าง Hellboy ฉบับใหม่ และจะได้ Mike Mignola ผู้แต่งการ์ตูนเรื่องนี้มารับหน้าที่ดูแลบทและงานสร้าง ซึ่งไม่น่าจะมีใครรู้จักเจ้าอสูรแดงตัวนี้เท่าเขาอีกแล้ว

หนังฉบับใหม่จะใช้ชื่อว่า Hellboy: The Crooked Man ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับหนังสือการ์ตูนเล่มดังปี 2008 ซึ่งเนื้อหาหนังฉบับใหม่นี้จะพาคนดูไปติดตาม Hellboy และเจ้าหน้าที่ BRPD มือใหม่ พวกเขาพาตัวเองเข้าไปพัวพันกับคดีหนึ่งในชนบทของ Appalachia ในช่วงปี 1950 และเผชิญหน้ากับ Crooked Man ชายผู้ฟื้นจากความตายด้วยสัญญาปิศาจ

ประธานของ Millennium Media กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ในแถลงการณ์ว่า “The Crooked Man เป็นการถอดถอนตัวเองออกจากหนัง Hellboy ก่อนหน้านี้ทั้งหมด ซึ่งในที่สุด Mike Mignola และผู้สร้างการ์ตูนเรื่องนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวและตัวละครของเขาในรูปแบบหนัง นี่เป็นครั้งแรกในซีรีส์ที่จะดึงดูดผู้ชมด้วยวิธีที่คุ้นเคย ผู้กำกับใหม่ Brian Taylor เป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน และเราก็คิดไม่ออกว่าจะมีใครที่ดีกว่านี้ในการทำให้เรื่องราวนี้มีชีวิตขึ้นมาเพื่อแสดงให้ผู้ชมของเราได้เห็นถึงความแตกต่างของหนัง Hellboy ที่เป็นต้นฉบับ”

Brian Taylor ผู้นี้เคยกำกับหนังมันๆอย่าง Crank 1-2 , Gamer , Jonah Hex และ Ghost Rider: Spirit of Vengeance และกำลังจะมีการคัดเลือกผู้ที่จะมารับบท Hellboy คนใหม่ ซึ่งนักแสดงที่เคยรับบทนี้ทั้งสองคนอย่าง Ron Perlman ก็แก่เกินแกง ส่วน David Harbour นั้นก็ปฏิเสธที่จะกลับมารับบทนี้เช่นกัน

Saturday, February 18, 2023

เตรียมฮาเหงือกบวมกับ ปืนเปลือย ฉบับ Reboot นำโดย Liam Neeson

คุณจำหนังอย่าง The Naked Gun ได้หรือไม่ นี่คือตำนานหนังตลกแอ็คชั่นปลายยุค 80 เรื่อยมาจนถึงยุค 90 ที่นำแสดงโดยนักแสดงรุ่นใหญ่ผู้ล่วงลับ Leslie Nielsen แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่หลายคนคงแทบไม่รู้จัก แต่หากคุณมีอายุ 35-40 ขึ้นไปคุณจะพากันร้องอ๋อทันที ชื่อไทยอย่าง ปืนเปลือย คือความทรงจำฮาเหงือกบวมของใครหลายๆคน

The Naked Gun เริ่มจากการเป็นหนังสั้นล้อเลียนทางทีวีอย่าง Police Squad! แล้วถูกต่อยอดให้เป็นหนังใหญ่ ที่สร้างติดต่อกันถึง 3 ภาค คือ The Naked Gun: From the Files of Police Squad! (1988) / The Naked Gun 2½: The Smell of Fear (1991) / Naked Gun 33+1⁄3: The Final Insult (1994) แต่ละภาคเป็นหนังทุนต่ำที่ใช้พลังดาราของ Leslie Nielsen จนมันทำรายได้ถล่มทลาย

และมันถึงเวลาแล้วที่มันจะถูก Reboot ใหม่ กับตัวละครใหม่ที่จะรับบทโดย Liam Neeson ข่าวว่าจะรับบทเป็นลูกชายของ Frank Drebin ที่รับบทโดย Leslie Nielsen ซึ่งจะถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ที่ตัวย่อชื่อของเขาคือ LN เหมือนกันกับ Leslie Nielsen

แต่ความน่าสนใจคือนี่จะเป็นการ Reboot โดยผู้กำกับสายฮา Seth MacFarlane จากหนังหมีสุดทรามอย่าง Ted ซึ่งเคยร่วมงานกับ Liam Neeson มาแล้วใน A Million Ways to Die in the West ในปี 2014 โดยจะสร้างภายใต้สตูดิโอ Paramount Pictures ทั้งนี้ Liam Neeson ได้ออกมาพูดถึงความเคลื่อนไหวในโปรเจ็กต์นี้ว่า " ผมเข้าไปหา Seth MacFarlane เขาและทีมงานของเขากำลังทำงานเกี่ยวกับบทหนัง ดังนั้นเราหวังว่าจะเริ่มกันในช่วงฤดูร้อน "

ทำไมต้องเป็น Liam Neeson ชายผู้ที่เคยผ่านงานดราม่าระดับรางวัลมาแล้วอย่าง Schindler's List ซึ่งต่อมาเขาได้เปิดตัวในฐานะแอ็คชั่นสตาร์รุ่นลุงกับหนังแอ็คชั่นสุดเซอร์ไพรส์ Taken ที่ประสบความสำเร็จจนส่งให้ Liam Neeson กลายมาเป็นดาราแอ็คชั่นที่มีผลงานแนวๆนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ในยุคหลังๆ Liam Neeson อาจมีภาพจำในบทซ้ำๆจนทำให้หนังของเขาเริ่มถอยความนิยมลง

มันน่าสนุกตรงที่การ Reboot อาจจะมีโทนของหนังที่จริงจังขึ้น แต่เปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะ มันจะถูกขับเคลื่อนด้วยพลังดาราของ Liam Neeson และการสร้างสรรค์ด้วยมุกตลกห่ามๆของ Seth MacFarlane ซึ่งนั่นมันอาจจะทำให้นี่กลายเป็นโปรเจ็กต์ทองที่ทุกคนรอคอยก็เป็นได้

ออสการ์ 2023: “มิเชล โหย่ว” ผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิง

มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับเวทีออสการ์ ด้วยการเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวที...